ในโลกยุค Digital Disruption ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับตัวอย่างก้าวกระโดด เพื่อที่จะมุ่งไปสู่องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลหรือที่เรียกว่า “Data-driven Organization” ซึ่งจะช่วยให้องค์กรยุคใหม่สามารถทำการตัดสินใจได้อย่างประสิทธิภาพ โดยใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่าง Data Visualization และ Generative AI

Data Visualization ถือเป็นเทคนิคในการสรุปข้อมูลต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายออกมาเป็นภาพในรูปแบบของกราฟชนิดต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้เห็นข้อมูลเชิงลึกและเห็นภาพในมุมมองของธุรกิจที่หลากหลาย 

4 พลังของการใช้ Data Visualization
✔ 1.การจัดกลุ่มประเภทของลูกค้าด้วยเพศ ช่วงอายุ ตำแหน่งที่อยู่ และระดับรายได้ จะทำให้เห็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น

✔ 2.ช่วยให้ธุรกิจมองเห็นข้อมูลเชิงลึกได้อย่างรวดเร็วว่าแคมเปญการตลาดแบบไหนที่สร้างโอกาสขายได้มากที่สุด

✔ 3.ช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด และผลิตภัณฑ์ที่อาจจำเป็นต้องปรับราคาและกลยุทธ์ทางการตลาด

✔ 4.ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ dashboard ในการติดตามผลการขายของสินค้าประเภทต่างๆ ในพื้นที่ต่างๆ และช่วงเวลาที่แตกต่างกัน

เมื่อเรามองเห็นว่ากลุ่มลูกค้าของเราหลัก ๆ แล้วเป็นกลุ่มไหน ก็จะทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการวางแผนธุรกิจ หรือมองหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้เป็นลูกค้าของเราเพื่อเพิ่มยอดขายในอนาคต นอกจากนั้นแล้ว Data Visualization ยังช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเห็นแนวโน้มในอนาคตจากข้อมูล และสามารถนำไปทำ Business Planning วางแนวทางของธุรกิจต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ


อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการนำข้อมูลมาขับเคลื่อนองค์กร ต้องเริ่มจากการตั้งเป้าหมายธุรกิจ (Business Objective) ที่ชัดเจน จากนั้นค่อยเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลมาใช้งานให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจที่ตั้งไว้ เพื่อให้ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์สามารถนำไปใช้ได้จริง โดยเครื่องมือหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแวดวงธุรกิจ คือ Microsoft Power BI ซึ่งมีความสามารถในการรวบรวมข้อมูล และนำข้อมูลมาประมวลผล ให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึก พร้อมทั้งนำเสนอข้อมูลที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน ช่วยให้แสดงข้อมูลเชิงลึกภายในองค์กรได้อย่างชัดเจน