ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและสถานการณ์ที่ผันผวน ความสามารถในการควบคุมตัวเอง (Self Control) เป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของการเป็นผู้นำที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยคุณรวิศ หาญอุตสาหะ CEO แห่ง Srichand และ Mission To The Moon Media ได้แบ่งปันมุมมอง “บทบาทของผู้นำ กับการมี ‘Self Control’” ในงาน SkillForce 2024 เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา 

สรุปแบบเน้นๆ session “บทบาทของผู้นำ กับการมี ‘Self Control’” 

📘 วงกลมแห่งการควบคุม: 3 ระดับสู่การเป็นสุดยอดผู้นำ

1.วงกลมชั้นนอก: สิ่งที่ควบคุมไม่ได้ (Things you cannot control)
โลกภายนอกเต็มไปด้วยปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา เช่น สภาพอากาศ การเมือง หรือภาวะเศรษฐกิจ คุณรวิศชี้แนะว่า ผู้นำที่ฉลาดจะไม่เสียพลังงานไปกับสิ่งเหล่านี้ แต่ให้รับรู้และเข้าใจพอประมาณ แล้วนำพลังงานไปใช้กับสิ่งที่ส่งผลโดยตรงต่อชีวิตและงานของเราแทน

2.วงกลมชั้นกลาง: สิ่งที่มีอิทธิพลได้ (Things you can influence)
ในเรื่องที่เราสามารถสร้างอิทธิพลได้ เช่น ความสัมพันธ์ การทำงานร่วมกับทีม การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มอิทธิพลในวงกลมนี้ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทีมจะช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

3.วงกลมชั้นใน: สิ่งที่ควบคุมได้ (Things you can control)
การจัดการตัวเองเป็นสิ่งที่เราควบคุมได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าหมาย การตอบสนองต่อสถานการณ์ และการพัฒนาตนเอง การทุ่มเทพลังงานในวงกลมนี้อย่างตั้งใจ จะสร้างผลกระทบที่ดีในวงกลมอื่นๆ ได้อย่างมหาศาล เมื่อเราจัดการสิ่งที่ควบคุมได้ดี ผู้คนรอบข้างมักตอบสนองในเชิงบวก และมองเราเป็นผู้นำที่น่าเชื่อถือ

📘 “การรู้สึกโอเคกับสิ่งที่ไม่โอเค”: ทักษะสำคัญในการเผชิญหน้ากับความท้าทาย

อีกหนึ่งในแนวคิดสำคัญที่คุณรวิศแนะนำ คือ “การรู้สึกโอเคกับสิ่งที่ไม่โอเค” ซึ่งหมายถึงการยอมรับและเรียนรู้ที่จะอยู่กับความไม่สบายกายไม่สบายใจได้ เพราะความคิดของเรามีอิทธิพลอย่างมากต่อการรับมือกับความท้าทาย โดยต้องค้นหา ‘Circuit Breaker’ หรือจุดที่เราสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเอง โดยการฝึกฝนร่างกายและจิตใจในสถานการณ์ที่ท้าทายแต่ยังควบคุมได้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์วิกฤตต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

📘 “Shut Up / Listen / Ask Questions”: ความสำคัญของการเป็นผู้ฟังที่ดี

หลักการนี้ไม่เพียงช่วยสร้างความเข้าใจในทีมงานได้ลึกซึ้งขึ้น แต่ยังช่วยให้เราได้รับความไว้วางใจจากทีมอีกด้วย การฟังอย่างตั้งใจ พร้อมกับการตั้งคำถามที่มีความหมายจะช่วยให้ผู้นำสามารถเชื่อมต่อกับทีมได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในการเป็นผู้นำในยุคนี้

📘 ความเมตตา: หัวใจสำคัญของการเป็นผู้นำที่ดี

คุณรวิศปิดท้ายด้วยแนวคิดว่า “Be Kind” หรือการเป็นผู้นำที่มีความเข้าใจและเมตตาต่อผู้อื่น ไม่เพียงแต่จะสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี แต่ยังเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จระยะยาว การผสมผสานระหว่างความเข้มแข็งในการนำและความอ่อนโยนในการดูแลทีม จะช่วยให้เราเป็นผู้นำที่น่าเคารพและเป็นที่รักในยุคที่ท้าทายนี้

ดังนั้น เริ่มต้นจากการโฟกัสที่ตัวเอง นำพลังที่มีมาสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดี แล้วทีมของคุณจะตามรอยไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน