สำหรับ Product Manager (PM) ที่ใฝ่ฝันจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ครองใจผู้ใช้ การดึงดูดและรักษาผู้ใช้ให้ภักดีกับผลิตภัณฑ์ไม่ใช่แค่เป้าหมาย แต่เป็นภารกิจสุดท้าทายที่ต้องพิชิตให้ได้ เพราะในโลกที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ผู้ใช้มีตัวเลือกมากมาย และความภักดีจึงไม่ใช่สิ่งที่จะคาดหวังให้เกิดขึ้นโดยบังเอิญได้

Product Funnel จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ PM ทุกคนควรศึกษาและนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้และสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน

Product Funnel คืออะไร?

Product Funnel คือ Framework หนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อนำทางผู้ใช้ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุดของการใช้งานผลิตภัณฑ์เพื่อดู User Journey ตั้งแต่ตอนที่เจอกับผลิตภัณฑ์ครั้งแรก ไปจนถึงวันที่ยอมควักกระเป๋าจ่ายตังค์ และกลายเป็น “แฟนคลับ” ตัวจริงของผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ซ้ำ และช่วยบอกต่อผลิตภัณฑ์

Product Funnel แบ่งออกเป็นขั้นต่าง ๆ ดังต่อนี้

• การรับรู้ (Awareness): สร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น โฆษณา โซเชียลมีเดีย หรือการตลาดเนื้อหา
• ความสนใจ (Interest): กระตุ้นความสนใจของผู้ใช้ด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจและตรงกับความต้องการ
• การพิจารณา (Consideration): ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจเลือกซื้อ
• การตัดสินใจซื้อ (Purchase): กระตุ้นให้ผู้ใช้ตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณด้วยข้อเสนอที่น่าสนใจ
• การรักษาลูกค้า (Retention): ซัพพอร์ตลูกค้าหลังการขาย การรวบรวมและดำเนินการตามความคิดเห็นของผู้ใช้ การอัปเดตผลิตภัณฑ์ และการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์
• ความภักดี (Loyalty): สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้ใช้ เพื่อให้พวกเขากลับมาใช้ผลิตภัณฑ์ซ้ำ ๆ

ซึ่งแต่ละช่วงของ Funnel มีเป้าหมายต่างกัน เลยต้องวัดผลด้วยตัวชี้วัด (Metrics) ที่ต่างกันไป

Product Funnel VS. Sales Funnel VS. Marketing Funnel ต่างกันไหม?

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ Sales Funnel หรือ Marketing Funnel อยู่บ้าง จริง ๆ แล้ว Product Funnel ก็มีแนวคิดคล้าย ๆ กัน คือมีเป้าหมายในการดึงดูดและรักษาลูกค้า แต่ก็มีความแตกต่างกันในเชิงขอบเขตและเป้าหมาย โดย Marketing Funnel เน้นการสร้างการรับรู้และดึงดูดผู้สนใจ และ Sales Funnel เน้นการเปลี่ยนผู้สนใจเป็นลูกค้าที่ซื้อสินค้า ในขณะที่ Product Funnel เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีและรักษาลูกค้าให้ใช้งานผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างการใช้ Product Funnel ในธุรกิจ

Netflix เสนอแพ็กเกจสมาชิกหลายระดับ (Basic/Standard/Premium) โดยเน้นแสดงแผน Basic เป็นตัวเลือกหลัก (เทคนิค Price Anchoring) ช่วยลดความลังเลใจในการสมัครทำให้ผู้ใช้สามารถเปรียบเทียบมูลค่าได้ง่าย และช่วยเพิ่มอัตราการสมัครสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Sephora สร้างชุมชนออนไลน์ ที่เรียกว่า “Beauty Insider Community” ซึ่งเป็นพื้นที่ให้ผู้ใช้ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เคล็ดลับ และรีวิวผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ Sephora ยังจัดกิจกรรมออนไลน์และออฟไลน์สำหรับสมาชิกชุมชน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และกระตุ้นให้ผู้ใช้กลับมาใช้งานผลิตภัณฑ์ซ้ำๆ 

แอปพลิเคชันเกม ใช่การมอบรางวัลและโบนัสพิเศษแก่ผู้เล่นที่เล่นเกมอย่างสม่ำเสมอ ชนะการแข่งขัน หรือทำภารกิจพิเศษ เป็นการกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมและสร้างความภักดีในระยะยาว

สรุปได้ว่า “Product Funnel” เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ PM ต้องใช้ให้เป็น!

Product Funnel ช่วยให้องค์กรเข้าใจว่าลูกค้าเคลื่อนที่ผ่านจุดสัมผัส (Touch Point) ต่างๆ ใน User journey อย่างไร ซึ่งข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ช่วยให้บริษัทสามารถปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น บริษัทก็จะได้ลูกค้าที่ภักดี และยอดขายมากขึ้น ลดต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่อีกด้วย

—–
ถ้าอยากตัดสินใจแบบ PM มืออาชีพ สร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง มาเรียนรู้หลักการที่ถูกต้องในการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ กับหลักสูตรสำหรับนักบริหารจัดการผลิตภัณฑ์มืออาชีพ“Product Management รุ่นที่ 9” ที่จะช่วยให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงกระบวนการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่การวางแผน การพัฒนา ไปจนถึงการเปิดตัวและการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ 

📌ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครเรียนได้ที่นี่: https://www.truedigitalacademy.com/course/product-management