เช็คด่วน! ธุรกิจเราเสี่ยงหยุด “Growth” อยู่หรือไม่?
เช็คด่วน! ธุรกิจเราเสี่ยงหยุด “Growth” อยู่หรือไม่?
Business
3 Min
30 Nov 2022
Share
Table of contents
ต้องเติบโตเท่าไหร่ถึงจะ “ดี”
โดยปกติ อัตราการเติบโตของธุรกิจ หรือ Growth Rate จะแตกต่างกันออกไปเล็กน้อยในแต่ละอุตสาหกรรม เมื่อคำนวณได้ผลลัพธ์ Growth Rate แล้วแนะนำให้ลองค้นหาค่าเฉลี่ย Growth Rate ในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมเดียวกันเพื่อทำการเปรียบเทียบว่าธุรกิจของเราอยู่ในสภาวะที่ปกติหรือไม่ แต่หากพูดโดยรวมๆ Growth Rate ที่ “ดี” ควรจะอยู่ระหว่างช่วง 15-45% ต่อปี
นอกจากนี้ยังมีการให้นิยามของแต่ละช่วง % ไว้ดังนี้
- >100% ━ ธุรกิจ Startup อยู่ในระยะเริ่มต้น
- 10-99% ━ ธุรกิจเติบโตดีและอาจจะกำลังเริ่มเข้าสู่ช่วงอยู่ตัว
- 1-9% ━ ธุรกิจเติบโตแต่ลำบาก ซึ่งบริษัทองค์กรขนาดใหญ่ส่วนมากมักอยู่ในช่วงนี้
- 0% หรือ ติดลบ ━ ธุรกิจเปิดมานาน และไม่มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงใดๆ
เราจะรู้การเติบโตของธุรกิจได้อย่างไร?
สามารถทำได้คร่าวๆ โดย คำนวณตัวเลข %การเติบโตของรายได้ต่อปี* หรือ Revenue Growth Rate ดังนี้Growth Rate = [(รายได้ใน 12 เดือนล่าสุด – รายได้ 12 เดือนก่อนหน้า) / รายได้ 12 เดือนก่อนหน้า] x 100
ตัวอย่าง:
รายได้ในช่วง 12 เดือนล่าสุด คือ 100,000 บาท
รายได้ช่วง 12 เดือนก่อนหน้า คือ 50,000 บาท
ดังนั้น เมื่อแปลงผลลัพธ์เป็นเปอร์เซ็นจะพบว่าธุรกิจนี้มี Growth Rate ต่อปี [(100,000 – 50,000) / 50,000] x 100 = 100% นั่นเอง
*สามารถนำมาใช้คำนวณ Growth Rate ต่อสัปดาห์ เดือน หรือไตรมาสก็ได้เช่นกัน เพียงแค่เปลี่ยนจำนวนช่วงระยะเวลาที่นำมาคำนวณ หากเป็นธุรกิจ Startup หรือธุรกิจในระยะเริ่มต้นแนะนำให้คำนวณ Growth Rate เป็นรายสัปดาห์จะเห็นภาพการเติบโตได้ดีกว่า
สภาวะถดถอย (Recession) จุดสำคัญที่ต้องเตรียมรับมือ
ตามหลักการของวัฏจักรของธุรกิจ (Business Cycle) จะต้องมีจุดที่สูงสุด (Peak) และตามมาด้วยสภาวะถดถอย (Recession) แต่สิ่งที่หลายคนมักเข้าใจผิดคือการที่คิดว่า “ในเมื่อมันเป็นวัฏจักร งั้นเราก็เพียงแค่รอเวลา ไม่ต้องทำอะไรสิ” ในความเป็นจริงหากเราปล่อยไปธุรกิจอาจจะตกลงไปจนถึงจุดที่ฟื้นฟูได้ยากขึ้นเรื่อยๆ การทำให้ธุรกิจเป็นตามวัฏจักรกลับมาเข้าสู่ช่วงเติบโตอีกครั้งจำเป็นต้องอาศัย “การพัฒนาปรับปรุง” ทั้งผลิตภัณฑ์บริการ และกระบวนการทำงานภายในองค์กร
วางแผนให้ธุรกิจไปต่อด้วย “Digital Transformation”
Digital Transformation คือ หนึ่งในทางออกที่องค์กรทั่วโลกเลือกทำอย่างจริงจังช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา โดยจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของคนทั้งองค์กร วิสัยทัศน์ของผู้นำ และใช้เวลาในการปรับเปลี่ยน แต่เมื่อทำสำเร็จองค์กรจะได้รับผลประโยชน์ที่คุ้มค่า อาทิ เช่น Microsoft ใช้เวลา 5 ปี ในการทำ Digital Transformation และเมื่อทำสำเร็จ หุ้นของบริษัทเติบโตอย่างพุ่งทะยานขึ้นถึง 258% หรือบริษัท Nike ใช้เวลา 2 ปี และได้ผลลัพธ์หุ้นเติบโต 69%
การทำ Digital Transformation ให้ประโยชน์กับธุรกิจในหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้ธุรกิจเติบโตต่อ และก้าวไปข้างหน้าเหนือคู่แข่งในตลาด นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจตอบสนองความต้องการของลูกค้า และทำให้พนักงานในองค์กรทำงานได้ดียิ่งขึ้น การตัดสินใจต่างๆ รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการทำพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจก็จะแข็งแกร่งด้วยเช่นกัน
Source: economictimes, forbes, weblineglobal, baremetrics
———————————————-
หากธุรกิจของคุณ ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการทำ Digital Transformation เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ทาง True Digital Academy เปิดรับสมัคร Exclusive Workshop – Canvas : Digital Transformation ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Digital Transformation ได้อย่างรอบด้าน คนในองค์กรสามารถเริ่มต้นลองลงมือทำไปด้วยกันเพื่อให้เกิด Digital Transformation ในองค์กรที่ประสบความสำเร็จ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ :: http://bit.ly/3GXj3qJ
————————————————-
สามารถติดตามความรู้และคอร์สเรียนที่น่าสนใจจาก True Digital Academy ได้ทุกช่องทาง
Website – https://bit.ly/3e9QZPw
Facebook – https://bit.ly/391XSkF
LinkedIn – https://bit.ly/3p7x08V
Instagram – https://bit.ly/2LwX5Ra
TiKTok – https://bit.ly/3v8e0wV