สรุป 20 ข้อ “ความรู้ AI ที่ควรมีก่อนสมัครงานในยุคนี้”

สรุป 20 ข้อ “ความรู้ AI ที่ควรมีก่อนสมัครงานในยุคนี้”

Business

5 Min

01 Nov 2024

Share

เนื้อหาที่น่าสนใจจาก Panel Discussion ในหัวข้อ“ความรู้ AI ที่ควรมี ก่อนสมัครงานในยุคนี้” โดย คุณแม็ค สุนาถ ธนสารอักษร Managing Director – Accenture Song, คุณเอ้ พิชญ ศรีฟ้า CTO & Co-Founder – GetLinks Group, คุณมอส นพดล รัตนวิเศษรัตน์ Digital Specialist – Modern Work – Microsoft และคุณออฟ ทุตานนท์ สินธุประสิทธิ์ R&D and Innovation Lab Lead – SCB X เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมาในงาน Job Connect 2024 ที่จัดโดย True Digital Park

สรุป 20 ข้อจากช่วงเสวนา “ความรู้ AI ที่ควรมีก่อนสมัครงานในยุคนี้”

1. การใช้ AI ในองค์กร: องค์กรส่วนใหญ่เริ่มนำ AI มาใช้ในกระบวนการทำงาน โดยเฉพาะในการคัดกรองผู้สมัครงานและการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานที่ต้องการความรวดเร็วและแม่นยำ. การประยุกต์ใช้ AI ช่วยให้ผู้บริหารมีข้อมูลที่ดีกว่าในการตัดสินใจ
.
2. ทักษะที่องค์กรให้ความสำคัญ: องค์กรมองหาทักษะในสองด้านหลักคือ เครื่องมือ (Tools) เช่น Microsoft Copilot, ChatGPT หรือ Gemini ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และทักษะ (Skills) ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้เครื่องมือ AI เหล่านี้ให้เข้ากับกระบวนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
3. AI ที่มีประสิทธิภาพ: AI ที่มีประสิทธิภาพควรครอบคลุมสามด้านสำคัญ ได้แก่ Operating Edge ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน, Creativity Edge ที่ขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์ และ Trust Edge ที่สร้างความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องช่วยให้การทำงานของมนุษย์ง่ายขึ้น
.
4. AI ไม่ได้แทนที่คน แต่มาแทนที่ task : AI สามารถเข้ามาแทนที่งานบางประเภทได้ เช่น ในจำนวน 10 งานที่มนุษย์ทำ AI อาจสามารถทดแทนได้เพียง 2 งาน แต่แม้ว่า AI จะมีศักยภาพในการจัดการกับงานบางอย่าง แต่ยังไม่สามารถแทนที่ความสามารถของมนุษย์ในหลายด้าน เช่น การตัดสินใจที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการอ่านสถานการณ์และตอบสนองอย่างเหมาะสมยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีมนุษย์เป็นผู้ทำ
.
5. การไม่มีความรู้ด้าน AI คือสิ่งที่น่ากลัว: มากกว่าการกลัวการถูกแทนที่ เราควรกังวลเกี่ยวกับการไม่รู้วิธีใช้งาน AI มากกว่า ความสำคัญอยู่ที่การพัฒนาทักษะด้าน AI โดยการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ จะช่วยให้เราสามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การพัฒนาทักษะยังเป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ส่งเสริมการเติบโตในสายงานของบุคคลอย่างมีคุณค่า
.
6. องค์กรอยากจ้างคนที่ใช้ AI เป็น: จากผลสำรวจ Work Trend Index 2024 พบว่า 77% ของนายจ้างมีแนวโน้มที่จะจ้างผู้ที่มีทักษะในการใช้ AI แม้ว่าจะมีประสบการณ์ทำงานน้อยกว่าผู้สมัครที่มีประสบการณ์มากกว่าแต่ไม่สามารถใช้ AI ได้ โดยแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของทักษะการใช้ AI ในตลาดแรงงานปัจจุบัน
.
7. การทำงานร่วมกัน: การรวมกันระหว่างคนและ AI จะส่งผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทำงานโดยลำพัง ซึ่งการใช้ AI เพื่อสนับสนุนการทำงานของมนุษย์สามารถช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำงานร่วมกันนี้จะช่วยเพิ่มคุณภาพและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
.
8. งานที่ใช้ความเชี่ยวชาญ: งานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง เช่น การแพทย์ การทำงานกับอารมณ์ หรือการตัดสินใจที่มีผลกระทบต่อผู้คน ยังต้องการการควบคุมจากมนุษย์ AI ยังมีข้อจำกัดในด้านที่ต้องใช้ความรู้สึกและความเข้าใจทางจิตใจ
.
9. AI ก็หลอนได้: AI Hallucination คือปรากฏการณ์ที่ AI ให้คำตอบที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ใช้งานต้องระวังและมีความคิด “เอ๊ะ” อยู่เสมอ เราจึงต้องตรวจสอบและประเมินคำตอบจาก AI อย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลที่ผิดพลาด และลดความเสี่ยงในการตัดสินใจที่อาจส่งผลเสียได้
.
10. ให้มอง AI เป็นน้องฝึกงาน: เราควรมอง AI เสมือนเป็นน้องฝึกงานที่มาช่วยสนับสนุนการทำงาน หน้าที่ของเราคือการตรวจสอบผลงานของน้องว่าทำถูกต้องหรือไม่ ก่อนที่จะนำไปใช้ต่อยอดในการทำงานจริง เหมือนที่ Microsoft เรียก AI ว่า Co-Pilot เพราะสุดท้ายแล้ว ผู้ที่เป็น Pilot หลักในการทำงานยังคงเป็นมนุษย์อยู่ดี
.
11. การใช้ AI ที่ดีควรนำไปใช้ในงานจริง: เพื่อให้การใช้ AI มีประสิทธิภาพสูงสุด เราต้องเข้าใจงานของตนเองอย่างชัดเจน และรู้ว่า AI สามารถเข้ามาช่วยได้อย่างไร รวมถึงข้อจำกัดในการใช้เครื่องมือแต่ละประเภท ความรู้เกี่ยวกับวิธีการทำงานของ AI จะช่วยให้คุณสามารถปรับกระบวนการทำงานให้เหมาะสมและใช้ AI ได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
.
12. ตั้งคำถามที่ตรงประเด็นกับ AI: การเลือกเครื่องมือ AI ที่เหมาะสมกับประเภทของงานและการตั้งคำถามที่ตรงประเด็นกับ AI จะช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมยังช่วยลดความซับซ้อนในกระบวนการทำงาน
.
13. คนใช้งานต้องมีทักษะในการตัดสินใจ: ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีทักษะในการตัดสินใจเพื่อตีความผลลัพธ์ที่ AI ให้มา ว่าอะไรดีและอะไรไม่เหมาะสม จากนั้นจึงเลือกข้อมูลที่ถูกต้องและนำกลับเข้าไปใส่ เพื่อให้ AI สามารถประมวลผลต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำเช่นนี้จะช่วยให้สามารถรีดความสามารถของ AI ออกมาได้สูงสุด
.
14. คนที่มีทักษะการสื่อสารที่ดีจะได้เปรียบในการใช้ AI: ผู้ที่มีทักษะการสื่อสารที่ดีจะมีข้อได้เปรียบในการใช้งาน AI เนื่องจากพวกเขารู้ว่าควรตั้งคำถามอย่างไรและต้องให้ข้อเสนอแนะแบบไหนเพื่อให้ได้คำตอบที่ต้องการอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ
.
15. AI คือความรู้ใหม่ เริ่มเรียนได้เท่ากันกับทุกคน: AI เป็นสาขาความรู้ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและสร้างความรู้ใหม่อยู่เสมอ ทำให้การเรียนรู้เกี่ยวกับ AI สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่จำกัดเฉพาะเด็กจบใหม่หรือผู้ที่ทำงานอยู่แล้ว ทุกคนมีโอกาสในการเรียนรู้ที่เท่าเทียมกัน โดยไม่คำนึงถึงอายุหรือประสบการณ์ นี่คือโอกาสที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและพัฒนาทักษะในด้านนี้ได้อย่างเสมอภาค
.
16. รู้เรื่อง AI ดีกว่าไม่รู้: ความรู้ด้าน AI เป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญในแทบทุกสายงาน ไม่ใช่เพียงแค่ในสายเทคโนโลยีเท่านั้น ผู้สมัครงานที่มีความรู้เกี่ยวกับ AI จะมีโอกาสสูงขึ้นในการได้งานในตลาดที่มีการแข่งขันมาก การพัฒนาความรู้ด้านนี้จะทำให้คุณมีคุณค่าและน่าสนใจในตลาดแรงงานมากยิ่งขึ้น
.
17. องค์กรจะเริ่มไม่รับคนที่มีปริญญาอย่างเดียว: อนาคตของการจ้างงานในองค์กรจะเริ่มมองหาคนที่มีทักษะ (Skills) มากกว่าคุณวุฒิทางการศึกษา งานในปัจจุบันมีตำแหน่งว่างมากมาย แต่หาคนที่มีความสามารถมาทำงานได้ยาก ดังนั้นองค์กรจึงมองหาบุคลากรที่สามารถสื่อสารได้ดี เข้าใจเทคโนโลยี และมีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจ ไม่ว่าจะมาจากคณะไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีทักษะในการทำงานที่สามารถนำไปใช้ได้จริง
.
18. Logic, Adaptability, Teamwork: นอกเหนือจากทักษะด้าน AI องค์กรยังมองหาบุคลากรที่มีความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผล (Logic) และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ (Adaptability) นอกจากนี้ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น (Teamwork) ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการทำงานเป็นทีมสามารถเสริมสร้างประสิทธิภาพและนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิผล
.
19. ความเป็นมนุษย์สำคัญที่สุด: แม้ว่าเราจะอยู่ในยุคของ AI แต่ความเป็นมนุษย์ยังคงมีความสำคัญที่สุดในการสมัครงานและการทำงาน การแสดงให้เห็นถึงตัวตนของเราเป็นสิ่งที่ทำให้เรากลายเป็นคนที่แตกต่างจากผู้สมัครคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การทำงานร่วมกับผู้อื่น หรือวิธีการจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ นอกเหนือจากเพียงแค่ผลงานที่มีอยู่ ความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์และการร่วมมือกับผู้อื่นถือเป็นคุณสมบัติที่สำคัญไม่แพ้กัน
.
20. Infinite Learner การเรียนรู้ต่อเนื่อง: ในปัจจุบัน องค์กรให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความกระตือรือร้นและไม่หยุดนิ่งในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง การมีความสนใจในการรับและเรียนรู้ข้อมูลใหม่ๆ เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแรงจูงใจและ drive ที่มีในการทำงาน นอกจากนี้ยังช่วยให้บุคคลนั้นเข้ากับทีมและวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างลงตัว

More Information

We will get back to you within 24 business hours
By submitting your information, you consent to allow True Digital Academy team to contact you or your organization via phone or email.