สำหรับใครที่ติดตามข่าววงการ AI อาจจะได้เห็นข่าว Openai บริษัทผู้พัฒนา ChatGPT เปิดตัว AI Model “GPT-4” ซึ่งเป็น AI Model อัปเดตใหม่ล่าสุดของ ChatGPT เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเจ้า AI Model ใหม่ล่าสุดนี้เรียกได้ว่าทรงพลังยิ่งกว่าเดิม! ฉลาดขึ้น มีความสามารถมากขึ้น รวมถึงเข้าใจการป้อนคำสั่งด้วย “รูปภาพ” จากเดิมที่จะเข้าใจเพียงแค่ข้อความเท่านั้น

แต่ล่าสุดได้มีคนถาม ChatGPT ด้วยการป้อนคำถามที่เขย่าวงการ HR และทำให้คนทำงานเริ่มมีหนาว โดยเขาได้ป้อนคำสั่งว่า “จงบอก 20 ตำแหน่งงาน ที่ GPT-4 จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ พร้อมทักษะที่จะถูกแทนที่” และต่อไปนี้คือผลลัพธ์ที่น่าสนใจที่ ChatGPT ตอบกลับมา…

20 ตำแหน่งงาน ที่ GPT-4 บอกว่าจะเข้ามาแทนที่มนุษย์ได้

หลายอาชีพข้างต้นเป็นอาชีพที่เน้นความถูกต้องแม่นยำ ความรวดเร็ว และการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งไม่แปลกเลยที่คอมพิวเตอร์จะเข้ามาแทนที่ได้ดีกว่า แต่ที่น่าตกใจคืออาชีพเชิงความคิดสร้างสรรค์ และทักษะของมนุษย์ อาทิ นักเขียนคำโฆษณา นักขายทางโทรศัพท์ นักแปล หรือตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้า กลับมีทักษะบางอย่างที่ ChatGPT เชื่อว่า GPT-4 จะทำได้ดีกว่าด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงผลลัพธ์ที่ได้เป็นเพียงการคิดวิเคราะห์จาก AI ซึ่งไม่ได้การันตีความถูกต้องแม่นยำ นอกจากนี้ผลลัพธ์ยังสามารถเปลี่ยนไปได้เมื่อ AI เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมในอนาคต

แล้วเราจะปรับตัวยังไงกันดี ก่อนที่จะสายไป!?

อย่างที่ได้กล่าวไปว่า อย่าเพิ่งตกใจว่าจะถูก AI แย่งงานในเร็ววันนี้ แม้ความสามารถของ AI จะมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทุกๆ วัน แต่เราก็ยังมีโอกาสในการพัฒนาและเพิ่มพูนทักษะของตนเองด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดผู้เขียนได้ทดลองถาม ChatGPT อีกครั้งว่าเราต้องปรับตัวอย่างไรเพื่อให้อยู่รอดได้ ไม่โดนแทนที่โดย AI และได้คำตอบว่า มี 5 สิ่งที่ต้องเตรียมตัว ได้แก่

1. เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่เป็นที่ต้องการในตลาดงาน ในที่นี้รวมถึงทักษะเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับ AI และระบบ Automation นอกจากนี้ Soft Skills อย่างทักษะการสื่อสาร ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการปรับตัวก็สำคัญเช่นกัน
2. คอยอัปเดตเทรนด์ล่าสุดอยู่เสมอ รวมถึงวิทยาการ และความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมของตนเอง เพื่อให้มองเห็นโอกาส และเตรียมตัวก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลง
3. เป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต และไม่หยุดพัฒนาตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเรียนคอร์สเรียนเพิ่มทักษะ เข้าประชุมสัมนา เวิร์คชอป หรือหา Mentor เก่งๆ สักคนมาเป็นผู้แนะแนวทางให้
4. พัฒนาความคิดแบบ Growth Mindset ซึ่งหมายถึงการเปิดรับความท้าทาย และพร้อมเผชิญกับความล้มเหลว โดยมองว่าเป็นโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต
5. มองหาโอกาสที่จะทำงานร่วมกับ AI แทนที่จะมองว่า AI จะหลายมาเป็นศัตรูทางอาชีพ ลองคิดหาวิธีใช้ AI ในการพัฒนาวิธีการและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อให้คุณภาพชีวิตของตนเองดีขึ้น มีเวลาเหลือไปทำงานที่จำเป็นจริงๆ มากขึ้น

โดยสรุป เมื่อมีหลายอาชีพที่ AI กล้าเคลมว่าจะสามารถเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์ได้ในอนาคตแบบนี้ พวกเราในฐานะคนทำงานก็ไม่ควรจะอยู่นิ่ง ควรเริ่มคิดพัฒนาทักษะตนเองให้สอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในวันข้างหน้า รวมถึงการอัปเดตความรู้ ศึกษา และคิดหาวิธีใช้ AI ให้เกิดประโยชน์ในการทำงานของตนเอง เพียงเท่านี้ก็ไม่จำเป็นกลัว AI หรือคนอื่นที่ใช้ AI เป็นมาแย่งงานอีกต่อไป

Source: @rowancheung, indianexpress

————————————————-

สามารถติดตามความรู้และคอร์สเรียนที่น่าสนใจจาก True Digital Academy ได้ทุกช่องทาง
Website – https://bit.ly/3e9QZPw 
Facebook – https://bit.ly/391XSkF
LinkedIn – https://bit.ly/3p7x08V 
Instagram – https://bit.ly/2LwX5Ra
TiKTok – https://bit.ly/3v8e0wV
YouTube – https://bit.ly/3is5lCx