กรณีศึกษาการใช้ AI ร่วมกันกับมนุษย์ของ Coca-Cola

กรณีศึกษาการใช้ AI ร่วมกันกับมนุษย์ของ Coca-Cola

Business

4 Min

15 Oct 2024

Share

ในยุคดิจิทัลที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับบริษัทเทคโนโลยี แต่ยังมีบทบาทสำคัญในธุรกิจทุกอุตสาหกรรม AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การตัดสินใจที่แม่นยำ และสร้างประสบการณ์ที่ดีมากยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า

กรณีศึกษาการใช้ AI แบบอยู่ร่วมกัน

Coca-Cola: ผู้นำในนวัตกรรม

Coca-Cola หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โค้ก” เป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่การปรับตัวและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของบริษัทเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง การลงทุนในเทคโนโลยี AI แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ

การลงทุนด้าน AI: ก้าวสู่อนาคต

ในปี 2023 Coca-Cola ได้ตัดสินใจลงทุนครั้งสำคัญในการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ โดยได้ทำข้อตกลงกับไมโครซอฟท์ (Microsoft) มูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท) การย้ายแอปพลิเคชันทั้งหมดไปยังแพลตฟอร์ม Microsoft Azure ทำให้ Coca-Cola สามารถเข้าถึงบริการ AI ที่หลากหลาย เช่น Azure OpenAI และ Microsoft 365 Copilot ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการผลิตและจัดจำหน่าย

ตัวอย่างการใช้ AI ในชีวิตประจำวันร่วมกับมนุษย์ของ Coca-Cola

Coca-Cola ใช้ AI ในกระบวนการผลิตและการตลาดเพื่อสร้างสรรค์แคมเปญที่น่าตื่นเต้นและสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ สำหรับลูกค้า:

1.AI Chatbot เพื่อการค้นหาแบบอิงสถานที่
Coca-Cola โปรโมต AI Chatbot ผ่านโฆษณาบน Instagram และ Facebook ซึ่งมีฟังก์ชันในการช่วยลูกค้าค้นหาร้านอาหารที่น่าสนใจในพื้นที่ใกล้เคียง โดยสามารถจองโต๊ะผ่าน OpenTable ได้ทันที นอกจากนี้ AI ยังสามารถสร้างคำเชิญส่วนบุคคลที่ลูกค้าสามารถส่งต่อให้เพื่อนหรือครอบครัวได้ ซึ่งทำให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างแบรนด์และลูกค้า และสร้างโอกาสในการเก็บข้อมูลผู้ติดต่อสำหรับการตลาดในอนาคต

ที่มารูป: https://www.searchenginejournal.com/6-ways-coca-cola-uses-generative-ai-for-advertising-and-marketing/504696


2.แพลตฟอร์มสร้างการ์ดเทศกาลจาก AI
Coca-Cola ร่วมมือกับ OpenAI ในการสร้างแพลตฟอร์ม “Real Magic” ที่ให้ผู้ใช้สามารถสร้างการ์ดเทศกาลที่ไม่เหมือนใครโดยใช้ AI ในการสร้างภาพจากคลังข้อมูลของบริษัท เช่น โลโก้หรือสัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและสร้างความรู้สึกมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในช่วงเทศกาล

ที่มารูป: https://www.searchenginejournal.com/6-ways-coca-cola-uses-generative-ai-for-advertising-and-marketing/504696/


3.การประกวดเนื้อหาโดยผู้ใช้
แคมเปญ “Create Real Magic” ของ Coca-Cola เปิดโอกาสให้ผู้สร้างสรรค์สามารถเข้ามาร่วมสร้างผลงานด้วย AI โดยผลงานที่ได้รับการคัดเลือกจะมีโอกาสได้แสดงบนป้ายโฆษณาดิจิทัลในเมืองสำคัญต่าง ๆ การจัดการประกวดนี้ไม่เพียงแต่สร้างแรงบันดาลใจให้กับแฟน ๆ แต่ยังช่วยให้ Coca-Cola สามารถรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นจากผู้บริโภคเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และแคมเปญในอนาคต

ที่มารูป: Our involvement in the Coca-Cola x openAI “Create Real Magic” generative AI campaign (so far)


4.การตลาดผ่านวิดีโอศิลปะ
Coca-Cola เปิดตัวแคมเปญ “Masterpiece” ที่นำเสนอผลงานศิลปะที่ได้รับการสร้างสรรค์ผ่านเทคโนโลยี AI ซึ่งมีการสร้าง Online Gallery ที่แสดงถึงผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการสัมภาษณ์ศิลปินที่มีส่วนร่วมในโครงการ การตลาดผ่านวิดีโอศิลปะนี้ช่วยสร้างความสนใจและการมีส่วนร่วมจากลูกค้าในทุกขั้นตอน ทั้งยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์

 

5.รสชาติใหม่ที่สร้างโดย AI
Coca-Cola เปิดตัวรสชาติใหม่ “Y3000” ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงรสนิยมและพฤติกรรมการบริโภค ก่อนการเปิดตัวอย่างตระการตาในลาสเวกัส การใช้ Generative AI ในการสร้างรสชาติใหม่ไม่เพียงแต่ช่วยให้ Coca-Cola ตอบสนองความต้องการของตลาด แต่ยังเป็นการแสดงถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจผู้บริโภค

ที่มารูป: Coca-Cola® Creations Imagines Year 3000 With New Futuristic Flavor and AI-Powered Experience


6.ประสบการณ์ Augmented Reality
Coca-Cola ใช้เทคโนโลยี Stable Diffusion ในการสร้างประสบการณ์ Augmented Reality (AR) สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยการแปลงภาพของผู้ใช้ให้กลายเป็นภาพในอนาคตที่น่าสนใจ ผ่านการโต้ตอบในแอปพลิเคชันที่พัฒนาโดย Coca-Cola การใช้ AR นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมกับแบรนด์ในวิธีที่น่าตื่นเต้น และสร้างความเชื่อมโยงที่ยั่งยืนระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์


มนุษย์และ AI: การอยู่ร่วมกันในชีวิตประจำวัน

การใช้ AI ใน Coca-Cola ไม่เพียงแค่ปรับปรุงประสิทธิภาพ แต่ยังทำให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในกระบวนการต่าง ๆ เช่น:
  • การรับฟังเสียงลูกค้า: Coca-Cola ใช้ข้อมูลจากลูกค้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่ามีส่วนร่วม
  • การสร้างเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น: แคมเปญ Create Real Magic ช่วยสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค
  • ประสบการณ์ที่มีความเป็นส่วนตัว: AI ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของลูกค้า

สรุป
Coca-Cola ได้ใช้เทคโนโลยี Generative AI อย่างน่าสนใจ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้ AI เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์ การลงทุนใน AI ของ Coca-Cola ไม่เพียงแต่สร้างนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้แบรนด์อื่น ๆ ในการทำงานร่วมกับ AI ในอนาคต

ติดตามบทความจาก True Digital Academy ในอนาคตต่อไป เพื่อค้นพบวิธีที่ AI จะเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจ และวิธีที่ธุรกิจของคุณจะนำ AI ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร!

More Information

We will get back to you within 24 business hours
By submitting your information, you consent to allow True Digital Academy team to contact you or your organization via phone or email.