เชื่อหรือไม่ว่าการสรุปผลการวิเคราะห์เพียงแค่ “หนึ่งบรรทัด” จากข้อมูลดิบนับร้อยนับพัน อาจสามารถช่วยพลิกสถานการณ์หรือ นำทางองค์กรให้ประสบความสำเร็จขึ้นไปอีกระดับได้ ซึ่งทุกวันนี้ หลายองค์กรล้วนเข้าใจดีว่า Data นั้นสำคัญอย่างไร แต่หัวใจสำคัญของเรื่อง Data นั้นไม่ใช่แค่การรวบรวม Data มาอยู่ในระบบ แต่ต้องใส่ใจรวมไปถึงวิธีการจัดเก็บ การนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้งาน และการนำเสนอให้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย

วันนี้เรารวมเครื่องมือสาย Data ที่ช่วยให้เราและองค์กร สามารถเอา Data ที่มีไปใช้งานได้อย่าง Excel, Tableau และ SQL มาดูกันว่าแต่ละเครื่องมือนั้นมีจดเด่นอย่างไร เหมาะกับงานแบบไหน และเหมาะกับธุรกิจของคุณหรือไม่ ไปดูกัน

Excel

เครื่องมือที่หลายๆ คนคุ้นเคยกันดี  เป็นแอปพลิเคชันจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบของตาราง แบ่งออกเป็น Rows และ Columns แต่ถึงว่าจะดูเป็นเครื่องมือพื้นฐาน แต่ก็เป็นพื้นฐานที่ไม่ธรรมดา เพราะ Excel มีฟังก์ชันและความสามารถพิเศษซ่อนอยู่เยอะมาก คนที่ใช้ Excel เก่ง จะสามารถทำอะไรได้อีกเยอะมาก

Excel มีตัวช่วยหลากหลายในการทำงานร่วมกับข้อมูล ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานกับแทบทุกตำแหน่งหน้าที่ในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือเล็ก Excel มีพื้นฐานการใช้งานในเรื่องการจัดเก็บข้อมูล และสามารถใช้คำนวณ ทำบัญชี ใช้ประกอบเขียนโปรแกรม ไปจนถึงการแสดงผลในรูปแบบกราฟและโมเดลต่างๆ

เหมาะกับงานอะไร:

• การจัดเก็บข้อมูลทั่วไป (Data Storage)
• การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติ (Statistical Data Analysis)

เหมาะกับใคร:

• ผู้ใช้งานทั่วไป
• ธุรกิจขนาดเล็ก

สรุปจุดเด่น:

• สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาเทรนด์และแพทเทิร์นต่างๆ ได้
• ความสามารถในการคำนวณเชิงคณิตศาสตร์ สถิติ และสูตรฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ง่าย
• มีการออกแบบ UI มาได้ดี เข้าใจง่าย

Tableau

เรื่องการแปลงข้อมูลให้เป็นภาพ (Data Visualization) คงต้องยกให้ Tableau เป็นอันดับหนึ่ง เพราะเป็น Business Intelligence Software ที่สามารถสร้าง Visualize และแชร์ผล Dashboard ร่วมกันได้เพียงไม่กี่คลิก Tableau แตกต่างจาก Excel ที่จะเน้นการ Visualize Data และยังทำให้สามารถมองเห็นจุดสำคัญ หรือมองเห็นความเชื่อมโยงในข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

Tableau สามารถใช้กับข้อมูลได้หลากหลาย และรองรับข้อมูลปริมาณมาก สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลหลายรูปแบบต่างๆ ได้ดี ทั้ง Data Warehouse ไฟล์บน Cloud Big Data บน Spreadsheet หรือกระทั่ง Data ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Data อื่นๆ ก็มาสามารถนำมา Join และ Blend Data จากฐานข้อมูลเหล่านี้มาผนวกรวมกันได้

เหมาะกับงานอะไร:

• เปลี่ยนข้อมูลให้เป็นภาพ (Data Visualization)
• นำเสนอข้อมูล หรือทำรายงาน (Presentation or Reporting)

เหมาะกับใคร:

• Data Analyst
• Marketing
• ธุรกิจขนาดใหญ่

สรุปจุดเด่น:

• สามารถออกแบบหน้าแสดงผล Dashboard ได้เองด้วยฟีเจอร์การรายงานผลหลากหลาย
• สามารถเพิ่ม Python, R script สำหรับการคำนวณที่ซับซ้อนได้
• รองรับและเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลหลายรูปแบบต่าง ๆ ได้ดี ทั้ง Data Warehouse, Cloud, Big Data

SQL

SQL หรือ Structured Query Language คือภาษาที่ใช้ในการเข้าถึงฐานข้อมูลตั้งแต่ดึงข้อมูลไปจนถึงจัดการข้อมูล SQL เป็นหนึ่งในภาษา Programming ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด มักจะใช้งานภาษา SQL ผ่านโปรแกรมต่างๆ ที่ต้องทำงานกับระบบฐานข้อมูล SQL มีความแตกต่างจาก Excel และ Tableau ตรงที่ SQL นั้นเป็นภาษาที่สามารถใช้งานภายใต้ระบบฐานข้อมูลอื่นๆ ได้ ซึ่งจะช่วยเสริมให้การทำงานทั้งหมดมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ใช้ SQL ทำงานร่วมกับ Excel

ภาษา SQL ถือว่าเป็นภาษายอดฮิตอันดับต้นๆ ที่คนทำงานสาย Data เพราะทำงานกับข้อมูลที่ซับซ้อนและจำนวนมหาศาลได้ ผู้ใช้งานสามารถทำการดึงข้อมูล คำนวณข้อมูล ไปจนถึงหาความเชื่อมโยงข้อมูลที่เหมือนกันในฐานข้อมูล (Relational Database) ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดและใส่สูตรทีละไฟล์ ซึ่งตัว SQL เป็นภาษาที่ไม่ซับซ้อน เรียนแล้วใช้ได้ยาวๆ จึงเปิดโอกาสให้คนที่ไม่ใช่สายเขียนโปรแกรมเข้าใจภาษานี้ได้ง่าย

เหมาะกับงานแบบไหน:

• การจัดการและประมวลข้อมูลจำนวนมหาศาล (Managing and Processing Large Amounts of Data )
• เรียกดูข้อมูล (Data Query)

เหมาะกับใคร:

• Data Analyst
• ธุรกิจที่ใช้ Data จำนวนมาก และต้องการใช้งานระยะยาว

สรุปจุดเด่น:

• รองรับปริมาณข้อมูลมหาศาล สามารถ Run คำสั่งได้ถึงระดับพันล้าน Rows
• ประมวลผลเร็ว
• ใช้ร่วมกับระบบฐานข้อมูล RDBMS (Relational Database Management System) และ DBMS (Database Management System) ได้

Source: unstop, digi.data, mindbowser

————————————————-

ไม่ว่าคุณจะงานตำแหน่งใดก็ตามในองค์กร Data สามารถกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมืออันทรงพลังที่ทำให้คุณตัดสินใจได้อย่างเฉียบขาดมากยิ่งขึ้น หากสนใจเรียนรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) แบบมืออาชีพ พร้อมฝึกใช้เครื่องมือที่นำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้จริง อาทิ Excel, SQL และ Tableau 

สามารถดูรายละเอียดคอร์สเรียน Data Analytics เข้มข้น 40 ชั่วโมงเต็มที่ True Digital Academy ได้ที่นี่:: https://bit.ly/3yWpEg6

————————————————-

สามารถติดตามความรู้และคอร์สเรียนที่น่าสนใจจาก True Digital Academy ได้ทุกช่องทาง
Website – https://bit.ly/3e9QZPw 
Facebook – https://bit.ly/391XSkF
LinkedIn – https://bit.ly/3p7x08V 
Instagram – https://bit.ly/2LwX5Ra
TiKTok – https://bit.ly/3v8e0wV
YouTube – https://bit.ly/3is5lCx