Y2K Trend กับ 5 เหตุผล ทำไมคนถึงกลับมา "อิน" กับอดีต

Y2K Trend กับ 5 เหตุผล ทำไมคนถึงกลับมา "อิน" กับอดีต

Business

3 นาที

08 ก.พ. 2023

แชร์

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าหันไปทางไหนก็จะพบกับกระแส “Y2K” หรือกระแสย้อนยุคช่วงปี 1990 ถึงต้น 2000 กลายเป็นกระแสหลักในปัจจุบันที่ดึงดูดกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะกลุ่มคน Gen Y ในฐานะผู้ที่เคยอยู่ร่วมสมัย และ Gen Z ที่มีความสนใจในแฟชั่นอดีตนี้ เนื่องจากชื่นชอบในความแปลกใหม่ แต่ก็ยังสามารถเชื่อมโยงกับยุคของตนเองได้ จนกลายเป็นผู้ต่อยอดกระแสบนโลกออนไลน์ โดยการกลับมาของกระแส Y2K นอกจากเรื่องของแฟชั่นแล้ว ยังรวมไปถึงไลฟ์สไตล์ การถ่ายรูป เพลง/สื่อ รวมถึงอุปกรณ์ไอทีย้อนยุคอีกด้วย

Y2K คืออะไรกันแน่?

Y2K ย่อมาจาก year 2000 หรือปี ค.ศ. 2000 ซึ่งเป็นยุคที่เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตกำลังเริ่มเบ่งบานเฟื่องฟูไปทั่วโลก แฟชั่นในยุคนั้นค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เกิดจากการผสมผสานกันระหว่าง Pop-culture ของชาวมิลเลนเนียลและการพัฒนาของเทคโนโลยีในยุคนั้น ที่ให้ความรู้สึกว่า “ล้ำสมัย (Futuristic)” แต่ก็ย้อนยุค (Retro) ตัวอย่างแฟชั่นที่มักจะเห็นได้ชัดเจน คือ เสื้อตัวเล็ก สายเดี่ยว เอวลอย กางเกงเอวต่ำ กระเป๋าทรง baguette รองเท้าส้นเตารีด สีสันสดใส แวววาว พื้นผิวโลหะ โดยเฉพาะสีชมพูที่เป็นเหมือนสีตีมหลักของยุค


5 เหตุผล ทำไมคนถึงกลับมา “อิน” กับอดีต

1. Nostalgia Marketing ทำให้ผู้บริโภคโหยหาอดีตที่สวยงาม
— โดยปกติแล้วกระแสแฟชั่นต่างๆ มีโอกาสที่จะวนเวียนกลับมาฮิตใหม่เป็นช่วงๆ แต่กระแส Y2K ในครั้งนี้อาจจะมีแรงผลักดันจากเหตุการณ์โรคระบาดเป็นร่วมด้วย เนื่องจากผู้คนในสังคมรู้สึกถึงความไม่มั่นคงปลอดภัยกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต รายงานจากบริษัทวิจัยระดับโลก Nielson ว่า COVID ทำให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มจะมองหาความสบายใจ ดังนั้นสื่อบันเทิงที่ช่วยทำให้สดชื่นเบิกบาน (Uplifting) และหวนคิดถึงอดีต (Nostalgic) จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ เหล่าแบรนด์ต่างๆ จึงเลือกใช้กลยุทธ์ Nostalgic Marketing หรือ การตลาดแบบหวนถึงอดีต เพื่อสร้างอารมณ์เชิงบวก และสร้างความสุขให้ผู้บริโภค

“NewJeans” South Korean girl group


2. Self-expression ผู้บริโภคต้องการพื้นที่ปลดปล่อยแสดงความเป็นตัวเอง
— สไตล์ Y2K มีความโดดเด่น เฉพาะตัว ให้ความรู้สึกกล้า ขี้เล่น สนุกสนาน และสุนทรียะด้านศิลปะที่เหนือขั้นไปอีกระดับ จึงกลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจ สำหรับกลุ่มคนที่มองหาวิธีแสดงออกถึงตัวตน และต้องการความโดดเด่น ซึ่งถูกตัดขาดหายไปนานหลายปีในช่วงล็อกดาวน์ที่ต้องเรียนและทำงานที่บ้านเป็นหลัก


3. Social Media Visibility กระแส Viral จากทั่วโลกบนแพลตฟอร์มฮิต

— Social Media มีผลอย่างมากต่อการกลับมาของกระแส Y2K ในครั้งนี้ แรงบันดาลใจด้านแฟชั่น ความงาม และงานออกแบบแบบ Y2K เป็นกระแส Viral บนแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่น อาทิ TikTok ทำให้เกิดการแชร์ต่อบนโลกออนไลน์และเกิดปรากฎการณ์บนโลกออฟไลน์ตามมา


4. Sick of Social Media ความเบื่อหน่ายโซเชียลมีเดีย

— ฟังดูเหมือนจะขัดแย้งกับข้อก่อนหน้านี้ แต่มีข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่าหลุ่มวัยรุ่นอาจหลงไหลในโซเชียลมีเดียโดยรวม “น้อยลง” จากรายงานวิจัยของ Pew Research พบว่าวัยรุ่น 36% กล่าวว่า พวกเขาใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไป จึงทำให้กลุ่มวัยรุ่นบางส่วนหันไปเลือกใช้เทคโนโลยีทางเลือก เช่น โทรศัพท์ฝาพับ และกล้องดิจิทัลแบบเก่า เพราะสำหรับผู้บริโภคอายุน้อยหลายๆ คน เทคโนโลยีรุ่นเก่าถือเป็นโอกาสในการถอดปลั๊กตนเองจากโลกโซเชียลมีเดียอันแสนวุ่นวาย


5. Affordability ราคาจับต้องได้
— อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญคือเนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคหลักของกระแส Y2K คือกลุ่ม Gen Z ดังนั้น “ราคา” จึงเข้ามามีบทบาทด้วยเช่นกัน เสื้อผ้า ไอเทม และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่อิงกระแส Y2K มักจะมีราคาจับต้องได้ ทำให้ดึงดูดผู้บริโภคได้ง่าย

image freepik.com


ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้เราได้เห็นแบรนด์ต่างๆ ออกผลิตภัณฑ์และโฆษณาที่อิงกับกระแส Y2K มากมายเพื่อเป็นตัวแทนสะท้อนความคิดของกลุ่มวัยรุ่นในยุคนี้ที่โหยหาคิดถึงอดีตในยุคที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก ใช้ชีวิตได้สนุกเต็มที่แบบไร้กังวล แสดงออกถึงความเป็นตัวเอง ความรู้สึกขัดแย้งทางความคิดเกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย และการบริโภคสินค้าที่ราคาจับต้องได้ จึงกลายเป็นที่มาของความนิยมกระแส Y2K ในปัจจุบัน


Source: everydaymarketing, .thairath, static.billboard, sofi

————————————————-

สามารถติดตามความรู้และคอร์สเรียนที่น่าสนใจจาก True Digital Academy ได้ทุกช่องทาง
Website – https://bit.ly/3e9QZPw 
Facebook – https://bit.ly/391XSkF
LinkedIn – https://bit.ly/3p7x08V 
Instagram – https://bit.ly/2LwX5Ra
TiKTok – https://bit.ly/3v8e0wV
YouTube – https://bit.ly/3is5lCx
แชร์