World Economic Forum แนะ “Skills-First” ทักษะต้องมาก่อน

World Economic Forum แนะ “Skills-First” ทักษะต้องมาก่อน

Business

3 นาที

18 ต.ค. 2024

แชร์

ในปัจจุบัน นายจ้างทั่วโลกเพียง 6% เชื่อว่าการยกเลิกข้อกำหนดด้านวุฒิการศึกษาจะช่วยเพิ่มบุคลากรที่มีความสามารถในองค์กรได้ อย่างไรก็ตาม ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีและตลาดแรงงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แนวคิด “Skills-First” ที่นำเสนอโดย World Economic Forum กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจต่าง ๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายในการหาบุคลากรที่มีทักษะเฉพาะทางที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด แทนที่จะมุ่งเน้นเฉพาะวุฒิการศึกษาเพียงอย่างเดียว

Ryan Roslansky ซีอีโอของ LinkedIn กล่าวว่า “ในการจ้างงาน ‘ทักษะ’ จะกลายเป็นเงื่อนไขแรก แทนที่วุฒิการศึกษา” แนวคิดนี้ท้าทายระบบการศึกษาแบบเดิมซึ่งมักมุ่งเน้นการมีใบปริญญาเป็นหลัก ในยุคที่องค์ความรู้ใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ความสามารถในการปรับตัวและพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ หรือ “ทักษะ”ควรเป็นเงื่อนไขแรกในการจ้างงาน มากกว่าวุฒิการศึกษา?

World Economic Forum แนะ “Skills-First” ทักษะต้องมาก่อน

มีองค์กรเพียงไม่กี่แห่งที่กล้าจ้างงานโดยไม่ยึดติดกับวุฒิการศึกษา

แม้จะมีการพยายามเปลี่ยนแปลงแนวทางการพัฒนาบุคลากรในหลายองค์กร แต่มีเพียงไม่กี่แห่งที่กล้าจ้างงานโดยไม่ยึดติดกับวุฒิการศึกษา บริษัท PwC ได้เผยแพร่รายงาน “Putting Skills First 2024” โดยระบุว่า 60% ของธุรกิจพบว่ามีช่องว่างทักษะ (Skills Gap) ในตลาดแรงงาน กล่าวคือ ธุรกิจเหล่านี้ไม่สามารถหาพนักงานที่มีทั้งวุฒิและทักษะตรงตามความต้องการได้ ส่งผลให้ต้องใช้เวลามากในการสรรหา และอาจต้องจ่ายค่าตอบแทนที่สูงขึ้นเพื่อดึงดูดผู้ที่มีทักษะ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการปรับตัวของธุรกิจ
PwC ยังพบว่าปัจจุบันมีพนักงานถึง 46% ระบุว่างานที่ทำไม่เกี่ยวข้องกับวุฒิการศึกษาเลย แต่มีนายจ้างทั่วโลกเพียง 6% เชื่อว่าการยกเลิกข้อกำหนดด้านวุฒิการศึกษาจะช่วยเพิ่มจำนวนบุคลากรที่มีความสามารถในองค์กรได้

แนวคิด “Skills-First” จึงเน้นการจ้างงานที่ให้ความสำคัญกับทักษะและความสามารถของผู้สมัครมากกว่าวุฒิการศึกษาหรือประสบการณ์ทำงาน องค์กรที่นำแนวทางนี้ไปใช้จะมองหาผู้ที่มีทักษะที่ตรงตามความต้องการของงาน ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางเทคนิค ทักษะในการทำงานร่วมกัน หรือ Soft Skills อื่น ๆ

กรอบแนวทาง “Skills-First Framework”

เพื่อช่วยองค์กรปรับตัวเข้าสู่แนวทาง “Skills-First” World Economic Forum ได้เสนอกรอบแนวทางที่ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลัก:



1.ระบุความต้องการทักษะปัจจุบันและอนาคต:
  • วิเคราะห์งาน: ทำความเข้าใจรายละเอียดของแต่ละตำแหน่งงาน เพื่อระบุทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน
  • สำรวจตลาดแรงงาน: ศึกษาแนวโน้มตลาดแรงงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อค้นหาทักษะที่มีความต้องการสูง
  • ประเมินช่องว่าง: เปรียบเทียบทักษะที่พนักงานมีอยู่กับทักษะที่ต้องการในอนาคต
2.สื่อสารความต้องการทักษะในรายละเอียดงาน:
  • เขียน Job Description ที่ชัดเจน: ระบุทักษะที่จำเป็นให้ชัดเจนในรายละเอียดตำแหน่งงาน
  • เครื่องมือประเมินทักษะที่หลากหลาย: ใช้แบบทดสอบและการประเมินผลงานเพื่อตรวจสอบทักษะ
3.ส่งเสริมการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง:
  • โปรแกรมการฝึกอบรม: จัดทำโปรแกรมฝึกอบรมที่มุ่งเน้นทักษะที่ตรงตามความต้องการของตลาด
  • วัฒนธรรมการเรียนรู้: ส่งเสริมให้พนักงานเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
4.สร้างระบบการประเมินผลที่ยืดหยุ่น:
  • ประเมินผลอย่างต่อเนื่อง: พัฒนาระบบที่เน้นการประเมินทักษะและการปฏิบัติงานจริง
  • รับฟังข้อเสนอแนะ: สร้างช่องทางให้พนักงานเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาและประเมินทักษะ
5.สร้างโอกาสในการเติบโต:
  • เส้นทางการเติบโตในสายงาน: สร้างโอกาสให้พนักงานได้แสดงทักษะและเติบโตในสายงานที่ตนสนใจ
  • การจ้างงานที่ยืดหยุ่น: ให้ความสำคัญกับการจ้างงานที่เน้นทักษะมากกว่าวุฒิการศึกษา


บทสรุปทิ้งท้าย กับ “ความท้าทาย” ที่องค์กรต้องเร่งปรับตัว

แม้แนวคิด “Skills-First” จะได้รับการยอมรับว่าเป็นแนวทางที่สำคัญจากผู้บริหารหลายองค์กร แต่การนำไปปฏิบัติจริงกลับประสบอุปสรรคมากมาย หลายคนยังมองว่าการจัดการทักษะเป็นหน้าที่ของฝ่าย HR เพียงฝ่ายเดียว โดยไม่เห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในองค์กร การปรับเปลี่ยนระบบและเครื่องมือต่าง ๆ เช่น การสร้างฐานข้อมูลทักษะและการประเมินทักษะจึงมีความจำเป็น เพื่อให้ HR สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ยังต้องการเวลา ความร่วมมือ และความพยายามจากทุกคนในองค์กร

ในขณะที่การพัฒนาทักษะมีความสำคัญอย่างยิ่ง ปริญญาก็ยังคงมีความหมายที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากจะเป็นเอกสารรับรองความสำเร็จทางการศึกษาแล้ว ปริญญายังสะท้อนถึงความมีวินัย ความมุ่งมั่น และความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีความสำคัญในสภาพแวดล้อมการทำงานสมัยใหม่

โดยรวมแล้ว ทักษะแสดงถึงความรู้และความถนัดในการปฏิบัติงาน ขณะที่ปริญญาช่วยแสดงถึงทักษะด้านสังคมและการเรียนรู้ร่วมกัน การสร้างความสมดุลระหว่างทักษะและวุฒิการศึกษาหรือการหาตัวชี้วัดความสามารถอื่นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรควรพิจารณา ท้ายที่สุด คุณคิดว่าองค์กรควรให้ความสำคัญกับทักษะมากกว่าปริญญาอย่างเดียวหรือไม่?

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม