รวม 10 เทรนด์ออกแบบ UX/UI ที่ต้องจับตาในปี 2023

รวม 10 เทรนด์ออกแบบ UX/UI ที่ต้องจับตาในปี 2023

5 นาที

08 ธ.ค. 2022

แชร์

เทรนด์ของ UX/UI มีการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่นักออกแบบต้องคอยติดตามเทรนด์เพื่อยกระดับการออกแบบเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน และมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้ผู้ใช้งาน

รวมเทรนด์ออกแบบ UX/UI ที่ต้องจับตาในปี 2023

1. Mixed Reality + Augmented Reality

กระแสโลก Metaverse ทำให้เทคโนโลยี AR/VR ถูกนำมาใช้มากขึ้น อาทิ คอนเสิร์ต แฟชั่นโชว์เสมือนจริง ขณะที่บริษัทระดับโลกหลายแห่งต่างกำลังเร่งพัฒนาสังคมดิจิทัลในรูปแบบใหม่ๆ และการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง เช่น การให้ลองตกแต่งห้องด้วย AR ก่อนซื้อเฟอร์นิเจอร์ การสร้างนามบัตรแบบ AR หรือ แสดงแผนที่ AR ใน Google Maps ดังนั้นเหล่านักแบบจึงต้องเริ่มคิดว่าจะจัดการออกแบบประสบการณ์จากเทคโนโลยีนี้อย่างไรให้ตอบโจทย์ความต้องการและปลอดภัย​​กับผู้ใช้งาน

2. Design Tool Mass Migration

นักออกแบบหลายคนที่เคยใช้เครื่องมือของ Adobe Creative Cloud มาก่อน เช่น Photoshop หรือ Illustration จำนวนไม่น้อย ที่เมื่อย้ายมาทำงาน UX/UI แล้วเลือกใช้ Adobe XD เนื่องจากเครื่องมือและชุดคำสั่งต่างๆ มีความคล้ายคลึงกัน แต่ในปี 2022 ที่ผ่านมานี้ Adobe ได้เข้าซื้อกิจการ Figma อีกหนึ่งเครื่องมือหลักของนักออกแบบ UX/UI รุ่นใหม่ ซึ่งจากคำแถลงการของ CEO Figma ได้กล่าวว่า Figma จะมีการพัฒนาต่อไป และจะได้ประโยชน์จากการผนวกฟีเจอร์ของ Adobe ในความสามารถด้านถ่ายภาพดิจิทัล วิดีโอ, Vector, 3D, AI และ Machine Learning ต่างๆ โดย Adobe XD อาจจะหยุดการพัฒนา ไปจนถึงเลิกใช้งานในอนาคต ในปี 2023 นี้จึงคาดว่าจะมีการโยกย้ายเครื่องมือของเหล่านักออกแบบเป็นจำนวนมาก

3. Accessibility

การออกแบบเพื่อผู้ที่มีความต้องการพิเศษต่างๆ ได้ผ่านร่างกฎหมายบังคับใช้ในยุโรปในปี 2025 ส่งผลให้องค์กรที่เกี่ยวข้องภายในรัฐสมาชิกจะต้องนำข้อกำหนดของกฎหมายนี้มาใช้กับการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการ ตู้เอทีเอ็ม สมาร์ทโฟน บริการธนาคาร และ e-books ไปจนถึงอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้ผู้พิการและผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้เหมือนคนทั่วๆไป นอกเหนือจากยุโรปแล้ว เทรนด์นี้ก็เริ่มแพร่หลายมากยิ่งขึ้นในปี 2023 นักออกแบบต้องหันมาใส่ใจ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าองค์กรให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานทุกกลุ่มอย่างแท้จริง

4. Qualitative UX research

เทรนด์​การวิจัย UX เชิงคุณภาพจะกลับมามีบทบาทสำคัญในปี 2023 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีข้อจำกัดมากมายในการทำวิจัย UX เชิงคุณภาพ เนื่องจาก COVID-19 ทำให้การเดินทางมาเข้าร่วมวิจัยยากลำบาก หลายองค์กรจึงทำการวิจัยเพียงแค่เชิงปริมาณ เช่น ติดตามวัดผลตัวเลขการใช้งาน เพื่อดูประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ และนำมาปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ แต่การวิจัยเชิงเชิงคุณภาพจะช่วยให้คุณเข้าใจผู้ใช้ และสามารถบันทึกการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างชัดเจนยิ่งกว่า

5. Voice Search

เทคโนโลยีการค้นหาด้วยเสียงและผู้ช่วยส่วนตัว อาทิ Google Assistant, Siri, Alexa เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันจริงของผู้คนมากขึ้น เนื่องจากมันเป็นเทคโนโลยีที่มีความตรงไปตรงมา และช่วยประหยัดเวลาได้ ในช่วงปี 2022-2023 เทคโนโลยีนี้จะถูกพัฒนาปรับปรุง และถูกนำไปใช้ในหลายแพลตฟอร์ม หลากรูปแบบมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของนักออกแบบ UX ทั้งหลายที่จะคำนึงถึงประสบการณ์และการโต้ตอบระหว่างมนุษย์และคอมพิวเตอร์ให้ลื่นไหลและเป็นธรรมชาติมากที่สุด

image via freepik

6. Motion Design

การออกแบบ Motion Design จะพัฒนาไปอีกขั้นจากการมาถึงของเทคโนโลยี 5G และ open-source Library อาทิ lottiefiles.com ที่มีงานออกแบบสำเร็จรูปพร้อมให้นำไปใช้หรือดัดแปลงได้ทันที ทำให้อุปกรณ์สามารถแสดงผลภาพแอนิเมชันที่น่าทึ่งได้มากกว่าที่เคย จึงเป็นที่น่าจับตาดูต่อไปว่าจะมีลูกเล่นอะไรใหม่ๆ ที่ดึงดูด และเสริมประสบการณ์การใช้งานให้สมบูรณ์แบบได้มากยิ่งขึ้น

7. Immersive Scrolling

การเลื่อนหรือไถหน้าจอก็สามารถมอบประสบการณ์ที่พิเศษได้ หากมีการออกแบบที่ดี หากคุณยังนึกภาพไม่ออก ลองดูการออกแบบประสบการณ์ไถหน้าจอของเว็บ kubrick.life/timeline/ ที่ผ่านมานักออกแบบส่วนใหญ่จะออกแบบการไถหน้าจอในแง่ของลำดับเนื้อหา และมีเพียงภาพหรือแอนิเมชั่นแทรกบ้างเล็กน้อย แต่ปัจจุบันนักออกแบบสามารถใช้ Javascript และ Library สำเร็จรูป สามารถการสร้างภาพเคลื่อนไหวที่ไหลลื่นต่อเนื่องกันได้ง่ายกว่าที่เคย ทำให้เกิดเป็น Storytelling จากการเคลื่อนไหวเหล่านี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในการดึงดูดผู้ชม และเป็นเครื่องมือในการสื่อสารเนื้อหาและอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น หลายๆ บริษัทที่จำเป็นต้องใช้หน้าเว็บ Landing Page ในการสื่อสารกับลูกค้าจึงเริ่มหันมาสนใจการออกแบบ Immersive Scrolling กันมากขึ้น

8. 3D Imagery

เทรนด์ภาพ 3 มิติในงาน UX/UI ก็เป็นอันผลเนื่องมาจากเทรนด์ความนิยมการออกแบบตัวอักษรสามมิติ (3D Typography) และการออกแบบพื้นผิวสามมิติ (3D Textural design) หลายปีที่ผ่านมาเทรนด์การสร้างภาพลักษณ์องค์กรให้ดูเป็นมิตรผ่านงานกราฟฟิคที่ดูเรียบง่าย ซึ่งมีแนวโน้มจะเริ่มจางหายไป นักออกแบบหลายคนพยายามค้นหาวิธีที่สนุกและน่าตื่นเต้นมากขึ้น ในการสร้างงานกราฟฟิคจากดัดแปลงภาพถ่าย หรือใช้ภาพประกอบที่ดูไม่ตั้งใจจนเกินไป รวมถึงการใช้วัตถุ 3 มิติในเว็บไซต์หรือแอปเพื่อตกแต่งหรือเสริมข้อมูล และมีแนวโน้มจะเป็นเทรนด์อย่างต่อเนื่องจนถึงปีหน้า พร้อมไปกับการพัฒนาและการนำเทคโนโลยี VR/AR มาใช้ร่วมกัน

9. Gradients

ในฝั่งผู้บริโภคจะเห็นชัดได้จากการที่เทรนด์ยุค 80-90 กำลังกลับมา แฟชั่นที่ดูโฉบเฉี่ยว สีสันสดใสเป็นที่นิยม ในงานออกแบบบนโลกดิจิทัลก็เช่นกันการใช้สีสันและการไล่สี (Gradient) จะได้รับการยอมรับและถูกนำมาใช้มากจนกลายเป็นเทรนด์หลักในปี 2023 ทั้งกับแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ แพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองหลังจากโลกเริ่มฟื้นฟูจากความหม่นหมองในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา

10. Wellness

เทรนด์ความใส่ใจด้านสุขภาวะทางกายและจิตใจของผู้คนทั่วโลกกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์หลักตั้งแต่มี COVID-19 และยังจะคงอยู่อย่างต่อเนื่องไปอีกสักระยะ คนหันมาสนใจวิถีการดำเนินชีวิตประจำวัน และความเป็นอยู่ที่ดีทางอารมณ์และร่างกายกันมากขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มส่งผลถึงเทรนด์ของเทคโนโลยีด้วย เช่น Wearable Gadgets ที่ใช้สวมใส่เมื่อออกกำลังกาย หรือใช้ชีวิตประจำวัน หรือแอปทำสมาธิ แอปคำนวนสารอาหาร แอปติดตามพฤติกรรมต่างๆ ที่ช่วยพัฒนาสุขภาวะทางร่างกายและอารมณ์ งานออกแบบ UX/XI จึงต้องสะท้อนความต้องการใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้ด้วยการออกแบบ Data Visualization และ Analytics รวมถึงมีแนวโน้มที่จะเลือกใช้สีที่ให้ความรู้สึกสงบ สุขภาพดี

image via freepix

จะประยุกต์ใช้เทรนด์ UI/UX กับงานจริงอย่างไรดี?

การจะเป็นนักออกแบบ UX/UI ที่ดี นอกจากการติดตามเทรนด์เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอแล้ว จำเป็นต้องเข้าใจพื้นฐานและกระบวนการออกแบบประสบการณ์ที่ถูกต้องด้วย หากสนใจอยากเรียนรู้กระบวนการออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะนำเทรนด์เหล่านี้มาประยุกต์ในงานได้อย่างเหมาะสม เกิดประสิทธิผลสูงสุด และทำให้ Product ของคุณโดดเด่นในอุตสาหกรรมได้

True Digital Academy เปิดรับสมัคร คอร์ส User Experience Design เรียนสดที่สถาบันของ เริ่มวันที่ 4 มี.ค. 2566 – 20 พ.ค. 2566 ทุกวันเสาร์ เป็นเวลาถึง 10 สัปดาห์ 40 ชั่วโมงเต็ม ปูพื้นฐานทุกเรื่องที่นักออกแบบ UX ต้องรู้และเข้าใจ ที่นั่งมีจำนวนจำกัด ขอสงวนสิทธิ์ที่นั่งให้ตามลำดับเวลาสมัครเรียน ดูรายละเอียดและสมัครเรียนเพิ่มเติมได้ที่:: http://bit.ly/3UGTpty


Source : uiuxtrend.com, linkedin.com, ttt.studio
————————————————-
สามารถติดตามความรู้และคอร์สเรียนที่น่าสนใจจาก True Digital Academy ได้ทุกช่องทาง
Website – https://bit.ly/3e9QZPw 
Facebook – https://bit.ly/391XSkF
LinkedIn – https://bit.ly/3p7x08V 
Instagram – https://bit.ly/2LwX5Ra
TiKTok – https://bit.ly/3v8e0wV

แชร์