เทรนด์ User Interface ในปี 2024 นี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจทุกปี สำหรับภาพรวมเทรนด์ของปี 2024 จะมุ่งเน้นไปที่การดึงดูดผู้ใช้ เพิ่มการมีส่วนร่วม และสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ ไปดูกันเลยว่ามีเทรนด์อะไรบ้าง!

อัปเดต 10 App/Web UI Trends มาแรง ปี 2024

1. Complex 3D Graphics

ด้วยวิวัฒนาการของเครื่องมือสร้างโมเดล 3 มิติที่ก้าวหน้า ทำให้กราฟิก 3 มิติและแอนิเมชั่นได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และกลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมในวงการออกแบบ หลังจากนี้ภาพกราฟิก 3D ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ช่วยให้สร้างประสบการณ์เสมือนจริงมากขึ้น ดึงดูดผู้ใช้ สร้างความประทับใจ และนำเสนอสินค้าหรือบริการแบบมีมิติยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น Memoji ใน iPhone และ 3D Avatar ใน Instagram เป็นต้น

2. Creative Motion Design

การออกแบบการเคลื่อนไหวแบบสร้างสรรค์ สามารถช่วยเพิ่มความน่าสนใจ น่าดึงดูด เพิ่มความน่าจดจำได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เทคนิคภาพเคลื่อนไหวในการอธิบายข้อมูลหรือฟังก์ชั่นต่าง ๆ แ บบมีชีวิตชีวา ไม่น่าเบื่อได้ด้วย! ตัวอย่างเช่น แอปเรียนภาษาต่างประเทศยอดฮิต Duolingo ที่ออกแบบ Motion ทำให้การเรียนภาษาสนุกเหมือนเล่นเกม แถมด้วยคาแรคเตอร์น่ารักน่าชัง

3. Diverse Video Content

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้สื่อที่ได้รับความนิยมสูงบนโลกออนไลน์คือวีดิโอ มีความน่าดึงดูดความสนใจ เข้าใจได้ง่าย และนำเสนอข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายเว็บไซต์ที่เมื่อก่อนใช้แบนเนอร์ (Banner) วางไว้ด้านบนสุดของหน้าหลัก ก็เปลี่ยนมาใช้วีดิโอเพิ่มความมีชีวิตชีวา และบอกเล่าเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ Uniqlo ที่นำเสนอสินค้าผ่านวีดิโอสั้น

4. Scrollytelling

การเล่าเรื่องผ่านการเลื่อนหน้าจอ ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ลื่นไหล น่าติดตาม กระตุ้นให้ผู้ใช้ค่อย ๆ เลื่อนหน้าจอไปเรื่อย ๆ ทำให้การนำเสนอเนื้อหามีความน่าสนใจ แปลกตา น่าลุ้น นอกจากนี้ยังทำให้สามารถควบคุมลำดับการเล่าเรื่องได้ด้วย ตัวอย่างเช่น หน้าสินค้า Apple Watch ที่ยิ่งผู้ใช้เลื่อนอ่านหน้าเว็บ ยิ่งเผยให้เห็นคุณสมบัติของสินค้าที่เจ๋งมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับรูปภาพและตัวหนังสือที่ทรงพลัง

5. Emotional Hero Section

แม้ฟังก์ชั่นจะเป็นสิ่งสำคัญในงานออกแบบผลิตภัณฑ์ แต่บ่อยครั้งที่ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อเพราะอารมณ์ล้วน ๆ จึงเป็นที่มาของเทรนด์การวางภาพที่เด่นที่สุดในหน้าเว็บไซต์ ให้สร้างความประทับใจแรกพบ กระตุ้นอารมณ์ และสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจน เช่น รูปหรือวีดิโอที่โดดเด่นกระแทกตา ตัวหนังสือที่ใหญ่ มีพลังสื่อสารและได้ใจความ ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ Panpuri แบรนด์เครื่องหอมของไทย ที่แค่เพียงหน้าแรกก็สื่อสารได้ทันทีว่าแบรนด์เน้นเรื่องการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ

6. Typography Experiments

การทดลองเล่นกับตัวอักษร ก็ช่วยสร้างเอกลักษณ์ ดึงดูดความสนใจ สื่ออารมณ์และความรู้สึก และเน้นย้ำเนื้อหาสำคัญได้ดีไม่แพ้รูปภาพ อย่างเช่น เว็บไซต์ Apple ที่เน้นสร้างอารมณ์ด้วยข้อความขนาดใหญ่ และสีที่น่าดึงดูด

7. Interactive Menus and Catalogs

เมนูและแคตตาล็อกแบบโต้ตอบ ช่วยให้ใช้งานง่าย ค้นหาข้อมูลสะดวก ประหยัดเวลา และยังสนุกอีกด้วย ตัวอย่างเช่น แอป MAKE by K-Bank แอปสร้างนิสัยเก็บเงินยอดนิยม ที่สามารถสร้างกล่อง Cloud Pocket ไว้แบ่งเงินออมสำหรับจุดประสงค์ต่าง ๆ ซึ่งความสนุกอยู่ที่การได้ลากเงินจากกองกลางเข้ากองเงินออมเหล่านี้ และยังมีหลอดโชว์ความคืบหน้า (Progress Bar) ให้ความรู้สึกเหมือนเกมอีกด้วย

8. Immersive Experiences

ประสบการณ์การใช้งานที่สมจริง ดึงดูดผู้ใช้ให้มีส่วนร่วม สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ กระตุ้นอารมณ์ และสื่อสารข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น แอป Dime! แอปการลงทุนจาก ธ.เกียรตินาคิน ที่ไม่ใช่เพียงแค่ซื้อ-ขายหุ้น หรือกองทุนได้ แต่ยังมีข่าวสาร บทความอัปเดต แบบทดสอบบุคคลิกภาพด้านการลงทุน และมี Mission สุดท้าทายให้พิชิต

9. Mix of Visuals

การผสมผสานภาพและวิดีโอหลากหลายรูปแบบ ช่วยสร้างความน่าสนใจ ดึงดูดความสนใจ ไม่น่าเบื่อ และสื่อสารข้อมูลได้หลากหลาย ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ Tesla ที่มีทั้งรูปภาพและวีดิโอที่น่าสนใจ

10. High-Level Conceptuality

แนวคิดที่ล้ำสมัยมากกว่าแค่ App/Web รูปแบบเดิม เป็นอีกเทรนด์ล่าสุดในวงการออกแบบ UI เพื่อสร้าง “ความสมจริงสูง” (High-fidelity concepts) ใช้ร่วมกับแกดเจ็ท และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในอนาคต แม้ขณะนี้ยังไม่ได้รับความนิยมในวงกว้าง แต่มีการพูดถึงอย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ  แม้จะยังไม่มีตัวอย่างที่ถูกใช้งานจริง แต่ก็มีภาพออกแบบคอนเซปออกมาให้เห็นได้อยู่บ่อย ๆ

การออกแบบที่ดีไม่เพียงแต่จะทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูดี แต่ยังส่งผลต่อความรู้สึกของผู้ใช้งานในหลายแง่มุม ให้รู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่าย ลื่นไหล น่าสนใจ เป็นที่จดจำได้ UI จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์เข้าไปอยู่ในใจของผู้ใช้งานในยุคที่ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลมีการแข่งขันสูง

Source: designstudiouiux, tubikstudio

————————————————-
16 – 17 มี.ค. 2567 นี้ มาเรียนรู้ทักษะการใช้โปรแกรม Figma ได้ในเวิร์คชอป “DIY: User Interface With ‘Figma’” รุ่นที่ 3 เรียนแนวคิดพื้นฐานของการออกแบบที่ดีให้กับผู้ใช้ และเข้าใจวิธีการทำงานเบื้องต้นของ UI Designer เหมาะสำหรับคนที่อยากย้ายสายการทำงานหรือต้องไปทำงานกับนักออกแบบในทีม มาร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกันและปลดล็อคพลังของการออกแบบ UI เพื่อช่วยแก้ปัญหาของผู้ใช้จริงหรือสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจ

👉 ดูรายละเอียด และสมัครเรียนได้ ที่นี่ : https://bit.ly/3OR6uk2
————————————————-