สรุป 10 Key Takeaways จากงาน PMAT THAILAND LEARNING & DEVELOPMENT FORUM 2024
สรุป 10 Key Takeaways จากงาน PMAT THAILAND LEARNING & DEVELOPMENT FORUM 2024
Business
2 นาที
30 พ.ค. 2024
แชร์
Table of contents
สรุป 10 Key Takeaways จากงาน THAILAND LEARNING & DEVELOPMENT FORUM 2024 จัดโดย สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทยใน (PMAT) โดยใน Session Beyond Boundaries: The Role of Design in Crafting Future Learning Experiences คุณวศิน เจิดนภาพันธ์ Head of Strategic Partnerships and Products, True Digital Academy ได้นำเสนอวิธีการออกแบบหลักสูตร Learning & Development ในยุคดิจิทัลให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้เรียนและองค์กร
⭐ Key Takeaways ⭐
1. องค์กรในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการอบรมไปสู่ Learner-Centered Curriculum หรือ การสร้างบทเรียนที่มีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
2. การอบรมแบบ Learner-Centered มีข้อดีต่างจากแบบเก่าตรงที่ใส่ใจพัฒนากลุ่มคนที่มีพื้นฐานแตกต่างกันมากกว่า พร้อมสร้างแรงกระตุ้นให้อยากเรียนรู้
3. การทำความเข้าใจว่าผู้เรียนมีจุดอ่อน-จุดแข็งอะไร (construction understanding) คือแก่นของการเรียนรู้แบบ Learner-Centered
4. พนักงานที่มีโอกาสได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตนสนใจจะสามารถพัฒนาการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีโอกาสประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานสูงขึ้น และมี Critical Thinking สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบ
5. แนวทางการพัฒนาบุคลากรแบบ Learner-Centered ได้แก่
🌟 Peer Learning Opportunities การเรียนรู้กับเพื่อนร่วมงาน
🌟 Action Learning การเรียนรู้จากโจทย์ปัญหาจริงในการทำงาน
🌟 Coaching การสร้างวัฒนธรรมโค้ชชิ่งในองค์กรในทุกระดับงาน
6. การนำหลัก Design Thinking 5 ขั้นตอน เข้ามาพัฒนาหลักสูตรเรียนรู้สำหรับองค์กร
1️⃣ Empathize: เข้าใจผู้เรียน จุดอ่อน-จุดแข็ง เป้าหมายในการเรียนรู้ นอกจากนี้ต้องเข้าใจ stakeholder ที่อยู่รอบตัวผู้เรียนด้วย
2️⃣ Define: ตั้งสมมติฐานระบุปัญหาหรือ challenge ในการพัฒนาทักษะของผู้เรียน
3️⃣ Ideate: ระดมไอเดียร่วมกันกับกลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง
4️⃣ Prototype: นำไอเดียต่าง ๆ ที่ได้ มาสร้างหลักสูตรรูปแบบใหม่ที่น่าจะตอบโจทย์พนักงาน
5️⃣ Test: นำหลักสูตรใหม่มาทดลองกับคนกลุ่มเล็ก ๆ แล้วนำ feedback กลับไปปรับแก้ใน loop ต่อ ๆ ไป
ซึ่งทาง True Digital Academy ได้นำ Design Thinking มาสร้างหลักสูตรพัฒนาบุคลากรแบบ Learner-Centered ทั้งกับบุคลากรในกลุ่ม TRUE และองค์กรชั้นนำของประเทศแล้วมากมาย
7. การมี Personalized Learning Journey ใน L&D programs ช่วยให้พนักงานมี Performance และ Engagement ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ จากผลสำรวจ พบว่า ทำให้พนักงานประสบความสำเร็จในอาชีพมากกว่าถึง 30 เท่า
8. 4 Key Step ของการสร้าง Personalized Learning Journey
1️⃣ Assess Skill Gaps ประเมินพื้นฐานและช่องว่างทางทักษะของบุคลากร
2️⃣ Custom Curriculum มีการวางบทเรียนแต่ละหัวข้อที่ตอบโจทย์
3️⃣ Design Learning Journey ร้อยเรียงบทเรียนเป็นเส้นทางการเรียนรู้โดยลำดับความสำคัญก่อนหลัง และสามารถต่อยอดความรู้ต่อได้
4️⃣ Feedback & Reflection ในองค์กร
9. AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างหลักสูตร L&D ตัวอย่างการใช้งาน เช่น ใช้สร้าง Personalized Learning Journey ใช้ Predict คอร์สเรียนที่ผู้เรียนควรเรียนต่อ และใช้สร้างเค้าโครง Content หลักสูตร เป็นต้น
10. การใช้เครื่องมือ Multimedia & Interactive ช่วยให้การเรียนรู้สนุกมากขึ้น ผลสำรวจพบว่า ช่วยให้ผู้เรียนมีความสนใจมากขึ้น 25% จดจำได้ดีขึ้น 30% และเกิดการให้ Real-time Feedback ตัวอย่างแพลตฟอร์ม เช่น Kahoot, Mentimeter และ miro
————————————————
สามารถติดตามความรู้และคอร์สเรียนที่น่าสนใจจาก True Digital Academy ได้ทุกช่องทาง
Website – https://bit.ly/3e9QZPw
Facebook – https://bit.ly/391XSkF
LinkedIn – https://bit.ly/3p7x08V
Instagram – https://bit.ly/2LwX5Ra
TikTok – https://bit.ly/3v8e0wV
YouTube – https://bit.ly/3is5lCx
ผู้เขียนบทความ
อริสรา ว่องไวตระการ
Marketing Specialist, True Digital Academy