สรุปสาระเน้น ๆ session “Martech Trends 2025 Innovations Shaping the Future of Marketing” จาก คุณบอล จิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ นายกสมาคม MarTech Association Thailand ในงาน DigiTech ASEAN Thailand เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา

สรุป Key takeaways เซสชั่น “Martech Trends 2025 Innovations Shaping the Future of Marketing”

📘 วิวัฒนาการการตลาด: จากอดีตสู่อนาคต

ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา การตลาดได้เปลี่ยนแปลงอย่างพลิกโฉม เริ่มต้นจากยุคการสื่อสารทางเดียวที่อาศัยสื่อดั้งเดิมอย่างป้ายโฆษณา หนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ ก่อนจะก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่เปิดประตูสู่การสื่อสารสองทางระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย จนปัจจุบันเราได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์อย่างเต็มรูปแบบ

📘 MarTech: เครื่องมือที่มาพร้อมความท้าทายและโอกาส 

MarTech หรือเทคโนโลยีทางการตลาด เปรียบเสมือนชุดเครื่องมือและโซลูชันที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับงานการตลาดโดยเฉพาะ โดยร้อยละ 90 ของเครื่องมือเหล่านี้ทำงานบนระบบคลาวด์ในรูปแบบ “Software as a Service” ซึ่งเข้าถึงได้ง่ายและยืดหยุ่นสูง

ความท้าทายสำคัญของนักการตลาดในยุคนี้มีสองประการ การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมจากตัวเลือกที่มีมากกว่า 10,000 เครื่องมือ และประการที่สองคือการพัฒนาทักษะแบบ T-Shaped ที่ต้องกว้างครอบคลุมทั้งการสร้างคอนเทนต์ การทำ SEO การวิเคราะห์ข้อมูล และการออกแบบกราฟิกเบื้องต้น

จุดแข็งที่โดดเด่นของ MarTech คือความสามารถในการทำ Segmentation หรือการแบ่งกลุ่มลูกค้าอย่างแม่นยำ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุมทั้งลักษณะทางประชากรศาสตร์ พฤติกรรมการซื้อ และช่องทางการติดต่อที่ลูกค้าแต่ละกลุ่มชื่นชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำ Omni-channel Marketing ที่เชื่อมโยงข้อมูลลูกค้าจากทุกแพลตฟอร์มเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์

📘 Customer Data Platform: หัวใจสำคัญของการตลาดยุคใหม่

การจัดการข้อมูลลูกค้าในยุคดิจิทัลต้องอาศัยการทำงานอย่างเป็นระบบใน 3 องค์ประกอบหลัก:

– Data Sources (แหล่งที่มาของข้อมูล) ซึ่งเก็บข้อมูลจากทุกจุดสัมผัสของลูกค้า ทั้งจากเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ระบบ POS และ CRM เป็นต้น
– Customer Data Platform (การบูรณาการข้อมูล) ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลและเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกแหล่งเข้าด้วยกัน เพื่อนำไปสร้างภาพรวมของลูกค้าแต่ละราย (Single Customer View) แบ่งกลุ่มลูกค้าตามลักษณะและพฤติกรรม และวิเคราะห์แนวโน้มและรูปแบบการซื้อ
– Channels (การนำข้อมูลไปใช้) เป็นขั้นตอนการแปลงข้อมูลเป็นการกระทำที่สร้างผลลัพธ์ ผ่านช่องทางต่างๆ ปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับความสนใจของผู้เข้าชม สร้างแคมเปญโฆษณาแบบ Custom Audience และส่งข้อเสนอและโปรโมชันที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม

การทำงานร่วมกันของทั้งสามส่วนนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นำไปสู่การสร้างประสบการณ์ที่ดีและความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า

📘 4 เทรนด์ MarTech ที่กำลังเปลี่ยนโฉมการตลาด

1. Low Code No Code
Low Code No Code กำลังเข้ามาช่วยให้การสร้างเว็บไซต์และสื่อการตลาดเป็นเรื่องง่ายขึ้น ผ่านเครื่องมือ MarTech เช่น WIX และ Canva ที่ลดขั้นตอนและระยะเวลาในการทำงาน โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดหรือใช้โปรแกรมเฉพาะ ข้อดีคือช่วยให้ทีมงานที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสามารถพัฒนาและปรับแต่งสื่อได้อย่างรวดเร็ว

2. Customer Data Platform Concept
Customer Data Platform (CDP) ช่วยให้การจัดการข้อมูลลูกค้าเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยครอบคลุมงานการตลาดใน 4 ด้านหลัก ได้แก่:

• Sale Pipeline Tracking สำหรับธุรกิจ B2B ระบบนี้ช่วยติดตามกระบวนการตั้งแต่การเก็บ Lead การจัดการข้อมูลเมื่อติดต่อกับลูกค้า การนำเสนอข้อมูล รวมถึงการจัดทำใบเสนอราคา และการเก็บข้อมูลลูกค้าแบบ Account Base เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลในองค์กรเดียวกัน
• After-Sale Service & Help Desk ระบบให้บริการลูกค้าหลังการขาย โดยออกแบบตามกระบวนการ After Sale ที่เฉพาะของแต่ละธุรกิจ
• Loyalty Program ระบบสะสมแต้ม การจัดลำดับ Tier Reward และการแนะนำเพื่อน (Referral) เพื่อเพิ่มความผูกพันของลูกค้ากับแบรนด์
• Marketing Automation ระบบที่ช่วยส่งอีเมล, SMS, หรือข้อความแจ้งเตือนโปรโมชั่นโดยอัตโนมัติ ตาม Segment ของลูกค้า พร้อมฟีเจอร์ AB Testing, Retargeting Ads และการจัดการ Customer Data Compliance อย่างปลอดภัย

📘 5C of AI-Powered Marketing Innovation
คุณบอลได้แนะนำ 5 ด้านสำคัญที่ AI เข้ามายกระดับงานการตลาดให้มีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์ยิ่งขึ้น ได้แก่

1. Content
ช่วยสร้างและบริหารเนื้อหาอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
AI Content Marketing ช่วยสร้างบทความ โพสต์ หรือคอนเทนต์ที่ดึงดูดใจ
AI Advertising ปรับแต่งและออกแบบโฆษณาให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
AI Sales Enablement สนับสนุนทีมขายด้วยเครื่องมือที่ช่วยนำเสนอสินค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิผล

2. Customer
ช่วยให้เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการ
AI Generate Customer Insight วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาด
AI Behavior Intelligence ศึกษาพฤติกรรมลูกค้าเพื่อคาดการณ์ความต้องการ
AI Identity Management จัดการข้อมูลตัวตนของลูกค้าจากทุกช่องทาง
AI Real-Time Interaction โต้ตอบและให้บริการลูกค้าแบบเรียลไทม์

3. Commerce
ยกระดับการจัดการขายช่วยลดความซับซ้อน
AI Personalize Product แนะนำสินค้าและบริการที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
AI Sync Order from All Marketplace รวมข้อมูลคำสั่งซื้อจากทุกแพลตฟอร์มไว้อย่างเป็นระบบ
AI Dynamic Pricing ปรับราคาสินค้าอย่างชาญฉลาดตามสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ
AI Invoice Generated ออกใบแจ้งหนี้โดยอัตโนมัติ รวดเร็ว และแม่นยำ
AI Validate Payment ตรวจสอบและยืนยันการชำระเงินอย่างปลอดภัย

4. Community
มีบทบาทสำคัญในการสร้างชุมชนออนไลน์และเสริมความแข็งแกร่งด้านการสื่อสาร
AI Social Media ช่วยจัดการและวางแผนโพสต์บนโซเชียลมีเดีย
AI Review Monitoring ตรวจสอบและวิเคราะห์ความคิดเห็นหรือรีวิวจากลูกค้า
AI Track Influencer Marketing ติดตามและประเมินผลการทำงานร่วมกับ Influencer
AI in User Generated Content บริหารคอนเทนต์ที่สร้างโดยผู้ใช้ (UGC) อย่างมีประสิทธิภาพ

5. Collaboration
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันในทีมและบริหารโปรเจกต์ได้อย่างมีระบบ
Automates Task Assignments จัดการมอบหมายงานอัตโนมัติ
Tracks Progress and Project Timelines ติดตามความคืบหน้าและจัดการโปรเจกต์
MRM (Marketing Resource Management) บริหารทรัพยากรการตลาดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
Automated Meeting Summaries สรุปรายงานการประชุมโดยอัตโนมัติ

ท้ายที่สุด คุณบอลได้เน้นย้ำว่า แม้ AI จะพัฒนาและมีความสามารถมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งสำคัญอันดับแรกที่นักการตลาดต้องทำทันที คือการวางรากฐานด้านข้อมูลที่แข็งแกร่ง ทั้งในแง่ของการเก็บรวบรวมและการประมวลผลอย่างเป็นระบบ เพราะพื้นฐานข้อมูลที่ดีจะเป็นกุญแจสำคัญในการนำ AI มาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในอนาคต 🚀