สรุปสาระจาก session “AI-Powered Marketing: Strategies for Better Targeting And Engagement” โดยคุณจิ๊บ สุรศักดิ์ เหลืองอุษากุล Chief of Digital Marketing and Technology สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) ภายในงาน DigiTech ASEAN Thailand

คุณจิ๊บได้แบ่งปันมุมมองและประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้ AI ในการยกระดับกลยุทธ์การตลาดโดยเน้นถึงบทบาทของ AI ในการช่วยนักการตลาดตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ทั้งในด้านการสร้าง Engagement และการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำยิ่งขึ้น 🎯

สรุป Key takeaways เซสชั่น “AI-Powered Marketing Strategies for Better Targeting And Engagement”

สรุป 15 ข้อ กลยุทธ์เพื่อการเจาะกลุ่มเป้าหมายและสร้าง Engagement อย่างมีประสิทธิภาพ 

1. AI เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่คำตอบสำเร็จรูป: การใช้ AI เพื่อสร้าง Engagement สำเร็จต้องมาพร้อมกับไอเดียที่แข็งแกร่ง คุณสุรศักดิ์ยกตัวอย่างการใช้ AI สร้างภาพและคอนเทนต์ที่ช่วยลดเวลาและทรัพยากร แต่การจะดึงดูดความสนใจผู้บริโภคได้สำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับ “ความคิดสร้างสรรค์” ของมนุษย์
.
2. AI กับการสร้าง Engagement: AI สามารถช่วยจัดการงานซับซ้อน เช่น การสร้าง Customer Segmentation การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และการปรับปรุง Customer Experience อย่างไรก็ตาม AI เป็นเพียง “เครื่องมือ” ที่ช่วยให้นักการตลาดทำงานง่ายขึ้น ไม่ใช่ผู้ตัดสินใจแทนมนุษย์
.
3. ข้อควรระวังในการใช้ AI: แม้ AI จะช่วยให้การทำงานเร็วขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น การให้ข้อมูลผิดพลาด หรือ “มั่วอย่างมั่นใจ” ซึ่งอาจสร้างปัญหาหากไม่มีการตรวจสอบที่ดีจากมนุษย์
.
4. การเจาะกลุ่มเป้าหมายด้วย AI: AI ช่วยให้นักการตลาดสามารถเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เช่น การใช้ข้อมูลเชิงพฤติกรรมและความสนใจมาวิเคราะห์เพื่อสร้างแคมเปญที่ตรงจุด คุณจิ๊บยกตัวอย่างการนำ AI มาวิเคราะห์ข้อมูลจาก Excel เพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบอัตโนมัติ โดยอิงตามปัจจัยที่สำคัญ เช่น ความถี่ในการซื้อ และพฤติกรรมการใช้จ่าย
.
5. การใช้ AI ในคอนเทนต์การคลาด: ตัวอย่างโฆษณา The Holiday Magic is coming. ของ Coca-Cola ซึ่งใช้ AI ในการสร้าง แม้จะได้รับความสนใจสูง แต่ต้องเผชิญกระแสคำวิจารณ์ของการใช้ AI ในงานสร้างสรรค์ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของการใช้ AI อย่างรอบคอบ
.
6. AI ช่วยสร้างคอนเทนต์ตามกลุ่มเป้าหมาย: AI ถูกนำมาใช้ในการสร้างกราฟิก วิดีโอ หรือแม้กระทั่งช่วยออกแบบคำโฆษณาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่
.
7. การสร้างประสบการณ์ที่จับต้องได้: ตัวอย่างจากต่างประเทศ คุณครูใช้ AI ในการสร้างภาพอนาคตสำหรับเด็กนักเรียน ซึ่งช่วยสร้างแรงบันดาลใจและเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
8. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนก่อนใช้ AI: ก่อนใช้ AI ควรตั้งคำถามสำคัญ เช่น “เราต้องการส่งมอบคุณค่าอะไรให้กับผู้บริโภค?” และ “คอนเทนต์นี้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายหรือไม่?”
.
9. เลือกเครื่องมือ AI ที่เหมาะสม: AI มีหลายรูปแบบ เช่น Generative AI สำหรับสร้างคอนเทนต์ หรือ Predictive AI สำหรับการพยากรณ์และวิเคราะห์ข้อมูล การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
.
10. ผสมผสานไอเดียมนุษย์กับ AI: มนุษย์ช่วยเติมเต็มความคิดสร้างสรรค์และตรวจสอบงาน AI การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI จะช่วยเพิ่มความแม่นยำและสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด
.
11. AI กับ Customer Segmentation: AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เช่น ความถี่ในการซื้อ เพื่อแบ่งกลุ่มและเพิ่มประสิทธิภาพการตลาด
.
12. การวัดผลและปรับปรุงด้วย AI: AI ช่วยวิเคราะห์ผลแคมเปญและปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
.
13. ใช้ AI เพื่อพัฒนาการสร้างแบรนด์: สร้างคอนเทนต์ที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
.
14. การใช้ AI อย่างชาญฉลาด: การใช้งาน AI จำเป็นต้องมีการกำหนดคำสั่งที่ชัดเจนเพื่อให้ AI สามารถสร้างเอาท์พุทได้ตรงตามความต้องการ ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก:

• INSTRUCTION – แนวทางการใช้งาน เช่น Research, Analyze, Draft
• CONTEXT – ข้อมูลนำเข้าที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอ
• EXAMPLES – ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ต้องการ

.
15. โดยสรุป AI เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการช่วยนักการตลาดยกระดับการทำงาน แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการผสมผสานระหว่าง AI และไอเดียที่สร้างสรรค์ของมนุษย์ การทำให้ AI เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การตลาดจะช่วยสร้างคุณค่าและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด