DigiTech ASEAN Thailand สรุป session "AI and Leadership Mindset เพื่อสร้าง Innovative Business + Brand"
DigiTech ASEAN Thailand สรุป session "AI and Leadership Mindset เพื่อสร้าง Innovative Business + Brand"
Business
3 นาที
09 ธ.ค. 2024
เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนโลกธุรกิจอย่างก้าวกระโดด และปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่จะพลิกโฉมวิธีการทำงานและสร้างโอกาสใหม่ๆ ในงาน DigiTech ASEAN Thailand คุณแท็ป รวิศ หาญอุตสาหะ CEO ของ Srichand และ Mission to the Moon Media ได้แบ่งปันมุมมองอันน่าสนใจเกี่ยวกับการใช้ AI เพื่อสร้างสรรค์ธุรกิจ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง!
สรุป Key takeaways เซสชั่น “AI and Leadership Mindset เพื่อสร้าง Innovative Business + Brand”
AI กับการปฏิวัติธุรกิจยุคใหม่: มุมมองจาก “คุณแท็ป รวิศ หาญอุตสาหะ” 🚀✨
1. การเรียนรู้ที่ไร้ขีดจำกัด
คุณแท็ปเล่าว่า AI กำลังทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้มากขึ้น โดยเฉพาะการเรียนการสอนแบบส่วนตัว ที่แต่ก่อนมีราคาแพงมาก แต่ปัจจุบัน AI สามารถปรับเนื้อหาและความเร็วให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างไม่จำกัด
.
2. การแก้ปัญหาระดับโลก
คุณแท็ปยกตัวอย่างโครงการ Stratosphere Problem ที่ใช้ AI คำนวณเพื่อปรับอุณหภูมิของโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันมหาศาลของ AI ในการจัดการปัญหาที่ซับซ้อนและมีตัวแปรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ หรือการแก้ปัญหาเชิงซ้อน
.
3. นวัตกรรมการบริการลูกค้า
AI กำลังปฏิวัติวงการบริการลูกค้า คุณแท็ปเน้นว่า AI สามารถออกแบบบริการที่เฉพาะเจาะจงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการ 24 ชั่วโมง การตอบสนองที่รวดเร็ว หรือการสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวให้กับลูกค้า
.
4. การสร้างสรรค์คอนเทนต์ยุคใหม่
คุณแท็ปบอกว่า AI ช่วยให้การสร้างภาพ วิดีโอ และเนื้อหาที่เคยใช้เวลานานสามารถทำเสร็จได้ในเวลาอันสั้น ช่วยให้ทีมครีเอทีฟสามารถผลิตงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
.
5. การแข่งขันระดับโลก
AI กำลังขจัดข้อจำกัดด้านภาษาและวัฒนธรรม ทำให้ธุรกิจในประเทศไทยสามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้อย่างง่ายดาย คุณแท็ปมองว่านี่คือโอกาสทองของผู้ประกอบการไทย
.
6. การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
AI ช่วยให้นักการตลาดและนักวิเคราะห์สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่และสร้างข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณภาพ
.
7. การเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร
คุณแท็ปชี้ให้เห็นว่า AI สามารถลดภาระงานซ้ำซากเช่น การจัดการข้อมูลลูกค้า การตอบคำถามคอลเซ็นเตอร์ หรือการจัดทำรายงาน ทำให้มนุษย์มีเวลาไปทำงานสร้างสรรค์มากขึ้น
.
8. การสื่อสารที่เข้าใจอารมณ์
AI ในปัจจุบันสามารถเข้าใจน้ำเสียงและอารมณ์ของลูกค้า ช่วยให้การสื่อสารมีความละเอียดอ่อนและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยเฉพาะในแชทบอทและระบบบริการลูกค้า
.
9. การสร้างความยั่งยืนในธุรกิจ
คุณแท็ปเน้นว่า AI ช่วยลดการสูญเสียทรัพยากร ด้วยความสามารถในการคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าและวางแผนการผลิตอย่างแม่นยำ
.
10. Mindset แห่งการเปลี่ยนแปลง
การนำ AI มาใช้ไม่ได้เป็นเพียงการปรับปรุงกระบวนการทำงาน แต่เป็นการสร้างโอกาสในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจสู่ความยั่งยืน ผู้นำที่ประสบความสำเร็จต้องมี Leadership Mindset ที่เปิดรับการเปลี่ยนแปลง
.
11. การผสมผสานศาสตร์
คุณแท็ปกล่าวว่า การรวมความรู้ด้าน AI กับความรู้ทางธุรกิจหรือศิลปะ จะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ทรงพลังและน่าตื่นเต้น
.
12. การเรียนรู้ตลอดชีวิต
AI กำลังทำให้การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นเรื่องง่ายขึ้น ช่วยสนับสนุนการพัฒนาทักษะในทุกช่วงวัย ตั้งแต่การศึกษาจนถึงการพัฒนาอาชีพ
.
13. จุดแข็งของมนุษย์
แม้ AI จะก้าวหน้า แต่คุณแท็ปย้ำว่าการเล่าเรื่องและจินตนาการยังคงเป็นจุดแข็งที่สำคัญของมนุษย์
.
14. การตั้งคำถามและปรับตัว
การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นจากการตั้งคำถามเกี่ยวกับวิธีการทำงานเดิม และพร้อมที่จะปรับวิธีคิดและการทำงานอยู่เสมอ
.
15. บทสรุป: กอดรับการเปลี่ยนแปลง
AI ไม่ใช่ภัย แต่เป็นโอกาส! คุณแท็ปฝากท้ายว่า การนำ AI มาใช้ไม่ใช่แค่การปรับปรุงกระบวนการทำงาน แต่เป็นโอกาสในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน ผู้นำที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้ต้องมี Leadership Mindset ที่เปิดรับ AI พร้อมกับการตั้งคำถามและปรับตัวอย่างต่อเนื่องเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นของการปฏิวัติเทคโนโลยี และ AI กำลังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ คุณพร้อมหรือยังที่จะก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดเดิมๆ?
1. การเรียนรู้ที่ไร้ขีดจำกัด
คุณแท็ปเล่าว่า AI กำลังทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้มากขึ้น โดยเฉพาะการเรียนการสอนแบบส่วนตัว ที่แต่ก่อนมีราคาแพงมาก แต่ปัจจุบัน AI สามารถปรับเนื้อหาและความเร็วให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างไม่จำกัด
.
2. การแก้ปัญหาระดับโลก
คุณแท็ปยกตัวอย่างโครงการ Stratosphere Problem ที่ใช้ AI คำนวณเพื่อปรับอุณหภูมิของโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันมหาศาลของ AI ในการจัดการปัญหาที่ซับซ้อนและมีตัวแปรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ หรือการแก้ปัญหาเชิงซ้อน
.
3. นวัตกรรมการบริการลูกค้า
AI กำลังปฏิวัติวงการบริการลูกค้า คุณแท็ปเน้นว่า AI สามารถออกแบบบริการที่เฉพาะเจาะจงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการ 24 ชั่วโมง การตอบสนองที่รวดเร็ว หรือการสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวให้กับลูกค้า
.
4. การสร้างสรรค์คอนเทนต์ยุคใหม่
คุณแท็ปบอกว่า AI ช่วยให้การสร้างภาพ วิดีโอ และเนื้อหาที่เคยใช้เวลานานสามารถทำเสร็จได้ในเวลาอันสั้น ช่วยให้ทีมครีเอทีฟสามารถผลิตงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
.
5. การแข่งขันระดับโลก
AI กำลังขจัดข้อจำกัดด้านภาษาและวัฒนธรรม ทำให้ธุรกิจในประเทศไทยสามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้อย่างง่ายดาย คุณแท็ปมองว่านี่คือโอกาสทองของผู้ประกอบการไทย
.
6. การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
AI ช่วยให้นักการตลาดและนักวิเคราะห์สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่และสร้างข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณภาพ
.
7. การเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร
คุณแท็ปชี้ให้เห็นว่า AI สามารถลดภาระงานซ้ำซากเช่น การจัดการข้อมูลลูกค้า การตอบคำถามคอลเซ็นเตอร์ หรือการจัดทำรายงาน ทำให้มนุษย์มีเวลาไปทำงานสร้างสรรค์มากขึ้น
.
8. การสื่อสารที่เข้าใจอารมณ์
AI ในปัจจุบันสามารถเข้าใจน้ำเสียงและอารมณ์ของลูกค้า ช่วยให้การสื่อสารมีความละเอียดอ่อนและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยเฉพาะในแชทบอทและระบบบริการลูกค้า
.
9. การสร้างความยั่งยืนในธุรกิจ
คุณแท็ปเน้นว่า AI ช่วยลดการสูญเสียทรัพยากร ด้วยความสามารถในการคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าและวางแผนการผลิตอย่างแม่นยำ
.
10. Mindset แห่งการเปลี่ยนแปลง
การนำ AI มาใช้ไม่ได้เป็นเพียงการปรับปรุงกระบวนการทำงาน แต่เป็นการสร้างโอกาสในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจสู่ความยั่งยืน ผู้นำที่ประสบความสำเร็จต้องมี Leadership Mindset ที่เปิดรับการเปลี่ยนแปลง
.
11. การผสมผสานศาสตร์
คุณแท็ปกล่าวว่า การรวมความรู้ด้าน AI กับความรู้ทางธุรกิจหรือศิลปะ จะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ทรงพลังและน่าตื่นเต้น
.
12. การเรียนรู้ตลอดชีวิต
AI กำลังทำให้การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นเรื่องง่ายขึ้น ช่วยสนับสนุนการพัฒนาทักษะในทุกช่วงวัย ตั้งแต่การศึกษาจนถึงการพัฒนาอาชีพ
.
13. จุดแข็งของมนุษย์
แม้ AI จะก้าวหน้า แต่คุณแท็ปย้ำว่าการเล่าเรื่องและจินตนาการยังคงเป็นจุดแข็งที่สำคัญของมนุษย์
.
14. การตั้งคำถามและปรับตัว
การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นจากการตั้งคำถามเกี่ยวกับวิธีการทำงานเดิม และพร้อมที่จะปรับวิธีคิดและการทำงานอยู่เสมอ
.
15. บทสรุป: กอดรับการเปลี่ยนแปลง
AI ไม่ใช่ภัย แต่เป็นโอกาส! คุณแท็ปฝากท้ายว่า การนำ AI มาใช้ไม่ใช่แค่การปรับปรุงกระบวนการทำงาน แต่เป็นโอกาสในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน ผู้นำที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้ต้องมี Leadership Mindset ที่เปิดรับ AI พร้อมกับการตั้งคำถามและปรับตัวอย่างต่อเนื่องเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นของการปฏิวัติเทคโนโลยี และ AI กำลังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ คุณพร้อมหรือยังที่จะก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดเดิมๆ?