สรุป Intro Class “Digital Marketing 101 | How To Build And Execute An Effective Strategy Through Digital Channels”

การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็พูดถึงในยุคนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์ หรือคนทำงานด้านธุรกิจ การรู้จักเพียงแค่ความหมายและคอนเซ็ปนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะโลกของธุรกิจ และการตลาดกำลังต้องการคนที่มีความรู้ และเข้าใจการทำการตลาดดิจิทัลอย่างแท้จริง ตั้งแต่หลักการ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ไปจนถึงวิธีการลงมือทำจริง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า

วันนี้ True Digital Academy มีสรุปจาก Intro Class “Digital Marketing 101 | How To Build And Execute An Effective Strategy Through Digital Channels” สอนโดยวิทยากร คุณธาม ตัณฑ์จยะ Alumni จาก MBA, University of Kent ประเทศอังกฤษ และอาจารย์ประจำ Digital Marketing Program คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำหรับใครที่อยากทบทวนบทเรียนจากคลาส หรือพลาดเข้าเรียนไป


=========================
📝สรุปสาระสำคัญ
=========================

Foundations ปูพื้นฐานความเข้าใจ

━ Traditional Marketing vs Digital Marketing
Traditional Marketing คือ การทำการตลาดแบบทางเดียว (Unidirectional) อาทิ การลงโฆณาในนิตยสาร วิทยุ หรือโทรทัศน์
Digital Marketing คือ การทำการตลาดแบบสองทาง (Bidirectional) อาทิ การทำ SEO หรือทำ Email Marketing หรือการใช้ Social Media เป็นต้น

⚠️Digital Marketing ไม่ใช่แค่การใช้ออนไลน์แพลตฟอร์มขายของ หรือการไลฟ์ขายสินค้า แต่ครอบคลุมทุกรูปแบบการตลาดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ Internet เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการทำการตลาด

⚠️Online ไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง สำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้านอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ทุกอย่างอยู่บนโลกออนไลน์แบบ 100% เพราะประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience: CX) ที่ได้มีสเน่ห์ที่แตกต่างกัน ควรใช้ช่องทางออนไลน์เป็นส่วนเพิ่มเติมช่องทางให้ซื้อขายได้สะดวกยิ่งขึ้น
===> Case Study: เว็บไซต์ขายของออนไลน์ระดับโลกอย่าง Amazon แม้ประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์แล้ว ก็ยังลงทุนเปิดหน้าร้าน Amazon Go, Amazon Style และ Amazon Books เพื่อมอบประสบการณ์ที่ครบและ “ไร้รอยต่อ” ให้แก่ลูกค้า

━ The 5Ds of Digital Marketing
องค์ประกอบของ Digital Marketing ประกอบด้วย
1. Digital Device อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ อาทิ คอม โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต อุปกรณ์เกม หรือกระทั่งตู้เย็นบางยี่ห้อ
2. Digital Platform แอป เว็บ และโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Wikipedia, Wongnai, Facebook, LinkedIn, Grab
3. Digital Media ยังแบ่งเป็น 3 กลุ่มย่อย คือ

• Owned Media เช่น เว็บไซต์ หรือเพจของแบรนด์ตนเอง
• Paid Media เช่น การยิงแอด จ้างอินฟลูเอนเซอร์โปรโมทสินค้า
• Earned Media เช่น การถูกพูดถึง แชร์ต่อในโลกออนไลน์

4. Digital Data เช่น การทำ Royalty Program ต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้ามาทำการตลาดในภายหลัง
5. Digital Technology เช่น การใช้ Digital Kiosk ซื้อสินค้า หรือใช้เทคโนโลยี AR สำหรับการลองเสื้อผ้าเพื่อลดเวลา
===> Case Study: McDonald’s ซึ่งเป็นธุรกิจออฟไลน์ ปัจจุบันมีทั้งตู้ Kiosk สำหรับสั่งอาหารที่สาขา และแอปพลิเคชัน เพื่อให้การบริการลูกค้าดียิ่งขึ้น

Emerging IT Trends for Digital Marketing การใช้เทคโนโลยีทำการตลาดดิจิทัล

ทั้งธุรกิจขนาดเล็กและใหญ่ล้วนมีการใช้เทคโนโลยีต่างๆมาทำการตลาดทั้งสิ้น (Statista, 2021) ตัวอย่างเทรนด์เทคโนโลยีที่ควรรู้จัก ได้แก่

━ SaaS (Software as a service) การใช้บริการ Software แบบ “ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมในเครื่อง” สามารถเข้าถึงได้ผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน เช่น Zoom, Dropbox, Netflix, Google
ข้อดีของ SaaS คือ ลดต้นทุกติดตั้ง รักษา อัปเดต ประหยัดพื้นที่เก็บและรักษาความปลอดภัยของข้อมูล อัปเดต Software ให้อยู่เสมอ และราคายืดหยุ่นตามการใช้งานจริง ปัจจุบันมีรูปแบบการเก็บเงินหลักๆ อยู่ 2 แบบคือ
1. Subscription Pricing จ่ายเงินรายเดือน หรือรายปี เช่น Netflix
2. Freemium Pricing ให้ใช้ฟรีแบบมีข้อจำกัด สามารถจ่ายเงินเพื่ออัปเกรดได้ เช่น Dropbox

━ Distributed Cloud พื้นที่จัดเก็บแบบออนไลน์ ทั้งเก็บไฟล์ หรือเป็นพื้นที่สำหรับจัดเก็บ SaaS
ข้อดีคือ ประหยัดพื้นที่ มีความปลอดภัยมากกว่า ตัวอย่างผู้ให้บริการ อาทิ Google Cloud, Amazon Web Service, Microsoft Azure

━ Virtual and Augmented Reality (VR/AR)
VR: สภาพแวดล้อมเสมือนที่ถูกสร้างจากคอมพิวเตอร์ เช่น การสวมแว่น VR แล้วอยู่ในโลกของเกม
===> Case Study: Topshop ชม Catwalk เสมือนจริงอยู่ที่บ้าน หรือบริษัทอสังหาฯ ใช้ VR พาชมบ้านตัวอย่าง หรือ V-Commerce ช้อปปิ้งแบบเสมือนจริง ช่วยลดข้อจำกัดต่างๆ และสร้างประสบการ์ที่ดียิ่งขึ้น

AR: การผสานโลกจริง กับวัตถุหรือข้อมูลแบบดิจิทัล เช่น การสวมหมวกของ Iron Man ที่เห็นโลกปกติ แต่มีผู้ช่วยเสมือนซ้อนในภาพด้ว
===> Case Study: IKEA App ลองวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน

━ Artificial Intelligence (AI) การใช้อัลกอริทึมมาช่วยวิเคราะห์สิ่งต่างๆ โดยอาศัยการป้อนชุดข้อมูลจำนวนมากเข้าไปให้เกิดการเรียนรู้ก่อน อาทิ การแนะนำของ YouTube, Netflix, Spotify หรือการใช้ AI คำนวณสัดส่วน และความเสี่ยงในงานวิศวกรรม เป็นต้น

━ Social Media แบ่งย่อยเป็น 5 ประเภท และตัวอย่าง
1. Social Networking: Facebook
2. Photo Sharing: Instagram
3. Video Sharing: YouTube, TikTok
4. Interactive Media: LINE
5. Blogging / Community Building: Wongnai

Sales Funnel การทำการตลาดดิจิทัลส่งเสริมการขายให้ปัง

━ Marketing Funnel คือการมองเส้นทางการขายในลักษณะเป็นรูป “กรวย” (Funnel)  โดยแบ่งเป็น 3 ช่วงคือ
Top of the funnel (TOFU): การสร้างความตระหนักรู้ และให้ความรู้เกี่ยวกับแบรนด์ สินค้า บริการ ว่าแบรนด์เราช่วยแก้ปัญหาอะไรให้ลูกค้า ผ่านการโฆษณา
Middle of the funnel (MOFU): การสร้างความน่าสนใจ และทำให้เกิดการพิจารณาเกี่ยวกับแบรนด์ สินค้า บริการ เช่น นำเสนอส่วนลด หรือจัดอีเว้นท์
Bottom of the funnel (BOFU): การทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือก และทำ action ที่เราต้องการ เช่น ซื้อ, สมัคร หรือกดแลกคะแนน เช่น ทำให้ขั้นตอนการซื้อง่าย หรือให้ทดลองใช้ก่อน

“Digital Marketing สามารถทำได้ในทุกขั้นตอน แต่นักการตลาดต้องรู้ก่อนว่าลูกค้าของเราอยู่ในขั้นไหนของ Funnel เพื่อออกแบบการตลาดให้เหมาะสม”

หากเจาะลึกลงในเรื่องของการลงมือทำจริง (Execution) ในคลาสนี้ คุณธามได้ยกตัวอย่างการลงโฆษณาผ่าน Facebook หรือที่คนชอบเรียกว่า​ “ยิงแอด” ว่ามีขั้นตอนอย่างไร พร้อมแนะนำว่าจุดสำคัญคือการ “รู้ Insight ของลูกค้า” และต้องรู้ก่อนว่าแบรนด์เราอยู่ในขั้นไหน เช่น หากคนยังไม่รู้จักแบรนด์หรือสินค้า ก็แนะนำให้เน้นการสร้างการตระหนักรู้ (Awareness) เป็นต้น

Key Takeaway:
💡แต่ละ Social Media มีอัลกอริทึมในการแนะนำโฆษณาให้กับลูกค้าแตกต่างกัน เพื่อจำแนก Content ให้เหมาะสมกับผู้รับสารตามลักษณะความชอบ หากเราเข้าใจหลักเกณฑ์ของอัลกอริทึมจะทำให้โพสต์โฆษณาของเราเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
💡หลังการยิงแอดควรเก็บข้อมูลผลลัพธ์มาวิเคราะห์ต่อด้วย โดยหนึ่งในดัชนีชี้วัดความสำเร็จ (KPI) ที่แนะนำคือการวิเคราะห์ตาม Digital Marketing Funnel 
💡การทำ A/B Testing คือการทดสอบเพื่อดูว่าแต่ละกลุ่มมีการตอบสนองต่อโฆษณาอย่างไร หรือโฆษณาแต่ละชิ้นมีการตอบสนองจากผู้ชมอย่างไร เพื่อเลือกโฆษณาชิ้นที่ดีที่สุด

Future of Digital Marketing สรุปอนาคตของการตลาดดิจิทัล

การตลาดดิจิทัลไม่ใช่แค่เรื่องการขายของออนไลน์ แต่รวมถึงการสร้างประสบการณ์ต่างๆ ทั้งการทำธุรกิจและการทำงานล้วนเกี่ยวข้อง อนาคตรูปแบบการทำงาน การเรียน การซื้อสินค้า มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว นักการตลาดดิจิทัลก็จำเป็นจะต้องปรับตัวตามเช่นกัน

หากสนใจอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ Digital Marketing แบบครบถ้วนจัดเต็ม ทั้งเนื้อหาสาระ และเทรนด์การทำการตลาดที่เหมาะสมกับยุคดิจิทัล สามารถดูรายละเอียดคอร์สเรียน Digital Marketing Part-time 40 ชั่วโมง ของ True Digital Academy ได้ที่:: www.truedigitalacademy.com/course/digital-marketing
————————————————-
สามารถติดตามความรู้และคอร์สเรียนที่น่าสนใจจาก True Digital Academy ได้ทุกช่องทาง
Website – https://bit.ly/3e9QZPw 
Facebook – https://bit.ly/391XSkF
LinkedIn – https://bit.ly/3p7x08V 
Instagram – https://bit.ly/2LwX5Ra
TiKTok – https://bit.ly/3v8e0wV