แอปพลิเคชั่นมือถือ กลายเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจในยุคปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การจะสร้างแอปที่ต้องเขียนโค้ดอาจฟังดูเป็นงานที่ “น่ากลัว” สำหรับคนทั่วไป โชคดีที่โลกของเรามีการพัฒนาเครื่องมือที่เรียกว่า Low-code Platform อย่าง Google Appsheet ที่ทำให้ทุกคนสามารถสร้างแอปของตนเองได้ง่ายๆ แม้ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโค้ดมาก่อน

วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จัก Google Appsheet กันให้มากขึ้น เพื่อเป็นไอเดียในการนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจหรืองานของตนเองให้โดดเด่นในตลาดได้ในโลกที่แข่งขันกันด้วยเทคโนโลยี

Google Appsheet คืออะไร และเหมาะกับใคร?

Appsheet คือเครื่องมือสร้างแอปแบบใช้ความรู้เรื่องโค้ดน้อย (Low-code) จนเรียกว่าได้ว่า “แทบไม่ต้องเขียนโค้ด” โดยมีฟังก์ชั่นการทำงานได้เทียบเท่าซอฟแวร์สำนักงานพวก Enterprise Resource Planning (ERP) ราคาแพง สามารถใช้ทำได้ตั้งแต่งานจัดทำเอกสาร งานทำบัญชี ระบบจองต่างๆ เก็บข้อมูลผลสำรวจ ตรวจสต็อกสินค้า การติดตามยอดขาย โดยสามารถเปิดใช้งานผ่าน Web Browser ได้ง่ายๆ ทั้งในสมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ได้ในทันที

และเนื่องจากไม่ต้องมีความรู้ด้านโค้ดมาก่อนจึงทำให้เครื่องมือนี้เหมาะสำหรับ “ทุกคน” ที่ต้องการสร้างแอป ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ คนทำงานในตำแหน่งใดๆก็ตาม สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ฟรี! ในการสร้างแอปพลิเคชันจำลอง (Prototype) แต่หากต้องการนำแอปที่สร้างมาไปใช้จริง ก็สามารถอัปเกรดแพลนด้วยราคาเริ่มต้นสบายกระเป๋าราคาหลักร้อยเท่านั้น หรือหากต้องการความสามารถระดับโปรสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ก็สามารถติดต่อเพื่อขอราคาสำหรับองค์กรได้เช่นกัน

Google Appsheet มีดียังไง?

ข้อดีของการใช้ Appsheet หลักๆเลยคือเรื่องของความง่ายและรวดเร็ว เพียงแค่เรียนรู้วิธีการใช้เครื่องมือเบื้องต้น ข้อมูล พร้อมกับไอเดียแอปที่ต้องการสร้างที่ชัดเจนก็สามารถลงมือสร้างแอปได้ทันที หลายแอปสามารถทำเสร็จได้ง่ายๆ ภายใน 1 วัน ไม่ต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนแอป หรือการใช้เครื่องมือเขียนโปรแกรมราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานมาทำงานที่สามารถใช้ระบบอัตโนมัติของ Appsheep ทำแทนได้ ซึ่งการใช้ระบบอัตโนมัติจะช่วยลดโอกาสผิดพลาดและการทุจริตในการทำงานได้อีกด้วย

Appsheet ยังสามารถนำไปใช้ผนวกรวม (Integrate) กับแอปพลิเคชั่นและซอฟต์แวร์อื่นๆ ได้ อาทิ รับส่งอีเมลและSMS, แปลงไฟล์ PDF อัตโนมัติ, สแกนบาร์โค้ด, ทำงานร่วมกับ Google Maps, Google Calendar, แจ้งเตือนผ่าน LINE บันทึกข้อมูลเข้าจากแอปอื่น เป็นต้น

ตัวอย่างเคสการใช้งาน Google Appsheet

หลักๆ แล้ว เราสามารถใช้เครื่องมือ Google Appsheet ในการทำงานเอกสาร (Document), ระบบอัตโนมัติ (Automation) และสร้างแดชบอร์ดรายงานผล (Dashboard) โดยหากเราเข้าไปที่ Website ของ Appsheet จะเจอกับเมนู Template ที่มีให้เลือกกว่า 70 Templates สำเร็จรูปพร้อมใช้งาน หรือจะนำไปประยุกต์รายละเอียดให้เข้ากับธุรกิจของตนเอง อาทิ

• แอปทำแบบสำรวจ (Simple Survey)
• แอปจัดการสต็อก (Inventory Management)
• แอปติดตามความคืบหน้าโครงการ (Project Tracker)
• แอปจัดการกะทำงาน (Shift Management)
• แอปจองพื้นที่ทำงาน (Workstation Booking)
• แอปออกใบประเมินราคา (Quote Generator)
• แอปสร้างและจัดการลิงก์แคมเปญ (Campaign Tracker)
• แอปติดตามสถานะลูกค้า (Account Health)
• แอปตรวจสอบคำร้องขอจากพนักงาน​ (Approvals)
• แอปดูแลจัดการร้านอาหาร (Retail Pickup)

หากพูดถึงบริษัทที่มีการนำ Google Appsheet ไปใช้อย่างจริงจังและน่านำมาเป็นกรณีศึกษา เราอยากจะขอยกตัวอย่างบริษัท Supr Daily ซึ่งเป็นบริษัท Startup ในประเทศอินเดียที่ให้บริการส่งอาหารสด และของใช้ในบ้าน โดยบริษัทได้ใช้ Google AppSheet ในการสนับสนุนงานปฏิบัติการ (Operations) เมื่อบริษัทเริ่มเติบโตและมีจำนวนออเดอร์สั่งสินค้ามากขึ้น ทำให้การทำงานแบบ Manual เริ่มมีความผิดพลาดมากขึ้น โดยแอปพลิเคชั่นตัวแรกที่ Supr Daily พัฒนาออกมาก็คือแอปสำหรับติดตามการจัดส่งสินค้า โดยที่แผนกจัดส่งสินค้าสามารถตรวจสอบรายการสินค้า และที่อยู่สำหรับการจัดส่งผ่านแอปที่สร้างขึ้นโดย AppSheet ได้ และเมื่อจัดส่งเรียบร้อย แผนกจัดส่งสามารถกดจบงานเพื่อแจ้งสถานะการจัดส่งแก่บริษัท พร้อมทั้งส่ง SMS ผ่านระบบอัตโนมัติแจ้งแก่ลูกค้า



โดยสรุปแล้ว Google Appsheet เป็น Low-Code Platform ที่เหมาะกับคนที่กำลังมองหาเครื่องมือช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดระยะเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย และลดข้อผิดพลาดด้วยระบบอัตโนมัติ แม้จะเป็นคนที่ไม่มีความรู้เรื่องโค้ดมากก่อนก็สามารถสร้างแอปพลิเคชั่นที่ตอบโจทย์การใช้งานของตัวเองได้ง่ายๆ เพียงศึกษาเรียนรู้วิธีการใช้เครื่องมือ และคอนเซปพื้นฐานของ Google Appsheet

สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Appsheet ทาง True Digital Academy กำลังเปิดรับสมัครเข้าร่วมเรียนเวิร์คชอป DIY: My First App With ‘AppSheet’ เพื่อเรียนรู้วิธีการสร้างแอปพลิเคชั่น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ขั้นต้น (MVP) รวมถึงการประยุกต์ใช้ Sheet ในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นให้ตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งานในแต่ละองค์กร 

📌สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเรียนได้ที่:: https://www.truedigitalacademy.com/course/diy-my-first-app-with-appsheet

Source: appsheet, workspace

————————————————-

สามารถติดตามความรู้และคอร์สเรียนที่น่าสนใจจาก True Digital Academy ได้ทุกช่องทาง
Website – https://bit.ly/3e9QZPw 
Facebook – https://bit.ly/391XSkF
LinkedIn – https://bit.ly/3p7x08V 
Instagram – https://bit.ly/2LwX5Ra
TiKTok – https://bit.ly/3v8e0wV
YouTube – https://bit.ly/3is5lCx