Product Manager คือ คนที่เข้าใจ value ของ product และ สามารถถ่ายทอด vision ของ product ให้กับทีม หรือ ผู้เกี่ยวข้องได้ ดังนั้นการสื่อสารจึงจำเป็นอย่างมาก นอกจากมีความสามารถในการเล่าเรื่องให้กับผู้ฟังที่มีความเข้าใจแตกต่างกันได้รู้เรื่องแล้ว สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น คือ product manager จำเป็นต้องเข้าใจสิ่งที่ตัวเองสื่อสารได้อย่างลึกซึ้ง เพื่อนำไปสู่การ execute และ ตัดสินใจได้

ซึ่งในยุคที่ทุกอย่างไหลไปอย่างรวดเร็ว ยังมี product manager หลายคนที่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองพูดได้ผิวเผิน หรือ เป็นเพียง Buzzwords ที่จำคนอื่นมาเล่าต่อเท่านั้น สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบในระยะยาว เช่น ไม่สามารถตอบคำถามได้กระชับ ไม่สามารถตัดสินใจได้ดี ไม่สามารถ prioritize feature ได้ เนื่องจากขาดความเข้าใจในสิ่งที่พูดและทำอย่างถ่องแท้ นอกจากจะทำให้ product ที่ทำอยู่มีโอกาสล้มเหลวได้ง่าย และตัว product manager เอง ขาดความน่าเชื่อถือในระยะยาวอีกด้วย

วันนี้อยากมาชวนคุย “7 Buzzwords ยอดฮิต ของ Product Manager” ที่พูดซ้ำไปซ้ำมาจนช้ำ แต่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วใช้ทำอะไร และถ้าเราเป็นหนึ่งในนั้น ควรจะต่อยอดความคิด หรือ หาคำตอบอะไรเพิ่มเติมบ้าง?

7 Buzzwords ที่ Product Manager ต้องเข้าใจก่อนใช้

1.Digital Transformation

ไม่ใช่ technology แต่เป็นการใช้ technology เข้ามาช่วยการเปลี่ยนแปลงของ ระบบต่างๆ เช่น business & operation processes รวมไปถึง mindset ของพนักงาน เพื่อสามารถเข้าใจและเข้าถึงลูกค้า ขยายตลาด ลด cost เพื่อเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทได้

Tips: เราควรเข้าใจว่า บริษัทตั้งเป้าเท่าไร ใช้ระยะเวลาเท่าไร และมีกลยุทธอะไรที่ทำให้ไปถึงเป้า ตีออกมาเป็นเงินคร่าวๆ แต่ละปีได้เท่าไร ทีมไหนต้องทำอะไร อะไรคือจุดชี้วัดความสำเร็จ แล้วเรามีส่วนเกี่ยวข้องส่วนไหนบ้าง

2.Agile

เป็น methodology รวมถึง mindset ในการทำงานที่สามารถแบ่งเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ในเวลาสั้น เพื่อที่จะสามารถเปลี่ยนได้ไว ต้นทุนน้อย ตอบโจทย์ลูกค้า และ ตลาดที่มาไวไปไวในปัจจุบัน

Tips: เราควรเข้าใจหน้าที่และความรับผิดชอบของ squad team member เพื่อปรับเปลี่ยนให้เข้ากับลักษณะของคน ธุรกิจ และระยะเวลาของ product ไม่ควรยึดติดกับกระบวนการจนเกินไป ควรเน้นผลลัพธ์เป็นหลัก

3.MVP

คือการระบุ feature list ที่มีมากเพียงพอสำหรับลูกค้ากลุ่มแรก (early-adopter customers) เพื่อทดสอบไอเดียของ product

Tips: การได้ MVP มา ควรผ่านการ product discovery, hypotheses & validation, prioritization มาแล้ว ไม่ควรเป็นการบอกกล่าว หรือ ตัดสินใจโดยคนกลุ่มเล็ก หรือ ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ product manager ควรถามว่า “why” ให้ได้มากที่สุด เพื่อสามารถรู้ value ที่มีต่อลูกค้า และ จัด priority ของ features และ manage product lifecycle ได้

4.Low-hanging fruit

คือ สิ่งที่ทำง่าย ใช้ effort ใช้เวลา และใช้ต้นทุนน้อย สามารถทำได้ก่อน

Tips: เราควรคำนึงถึง impact ว่าทำแล้วได้อะไร และหลังจาก launch ไปแล้วการวัดผลการใช้งานของผู้ใช้จะเป็นอย่างไร มากกว่าแค่ทำง่าย เลยทำไปก่อน

5.Lifetime Value (LTV)

คือ การประเมินค่าเฉลี่ยของ revenue ที่สามารถใช้จ่ายได้ ในอายุขัยของลูกค้า

Tips: ควรเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า ภายในระยะเวลา ที่เหมาะสม เช่น พฤติกรรมการซื้อขายของลูกค้าในแต่ละ category ภายใน 1 ปี. ควรใช้ตัวเลข เช่น

“LTV = (Average Revenue per Account * Gross margin)/ Churn rate”

ในการสื่อสารร่วมไปกับ ความเป็นไปได้ในการขยายความสามารถในการใช้จ่ายของลูกค้าไปที่ products อื่นๆ ที่เรามี ที่ลูกค้าให้ value หรือต่อยอดให้ชีวิตของเค้าดีขึ้น

6.Synergy

คือ การร่วมมือร่วมใจกันของ 2 ฝ่ายขึ้นไป ส่วนใหญ่จะเป็น business unit หรือ บริษัท เพื่อหาผลประโยชน์ร่วม ในการขยาย, ลด cost, และรวดเร็วขึ้นในแผนระยะยาว

Tips: product manager ควรเข้าใจว่า ทำไม ถึงต้องมีการ synergy ผลประโยชน์อะไรที่เราจะได้ เป็นเงินประมาณเท่าไร ระยะเวลาเท่าไร อะไรคือสิ่งที่ trade off และทีมต้องปรับตัว หรือ เตรียมตัวกับอะไรบ้าง เพราะการ synergy จะต้องมีการปรับตัวของทีมงานในช่วงแรก เพื่อรองรับการทำงานร่วมกัน รวมไปถึง service, infrastructure, operation และอื่นๆ

7.Data Driven

คือ ข้อมูลสามารถชี้แนะ solution หรือ การตัดสินใจในด้านกลยุทธ์ เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายของบริษัทให้ดีขึ้น การที่บริษัทจัดเก็บข้อมูล (data) ไม่ได้แปลว่า data driven หรือ แม้แต่มีข้อมูลที่เป็นแค่ information ไม่สามารถนำมาตัดสินใจ หรือ ชี้แนะได้ ก็ยังไม่ใช่ data driven เป็นแค่ข้อเท็จจริง หรือ ข้อมูลดิบทั่วไป (informative data)

Tips: เราควรเข้าใจว่าสิ่งที่เรานำข้อมูลไปใช้อยู่ใน stage ไหน การที่มีข้อมูลแต่ใช้งานไม่ได้เลย ก็เปรียบเทียบได้กับไม่มีข้อมูล data driven ต้องการ data ที่มี structure และ quality ในการจัดเก็บ รวมไปถึงการนำไปใช้ที่ชาญฉลาด มีการปรับ และ validate ว่าถูกต้อง

ทักษะสำคัญของ product manager คือ communication และ stakeholder management ฉะนั้น การที่เราใส่ใจในรายละเอียด และ context ก่อนจะพูด Buzzwords ใดๆ จะสะท้อนถึงคุณภาพ และ ความน่าเชื่อถือของผู้พูดมากยิ่งขึ้น ในมุมที่สามารถพูดถึงภาพใหญ่ เข้าใจ vision เข้าใจ business goals และเข้าใจเพียงพอที่จะ execute ได้ด้วย 🙂