มองผ่านเลนส์ดิจิทัล “POP MART” ร้านขายของเล่น ที่กำไรไม่เล่น

มองผ่านเลนส์ดิจิทัล “POP MART” ร้านขายของเล่น ที่กำไรไม่เล่น

Business

3 นาที

11 ม.ค. 2024

แชร์

ในช่วงที่ผ่านมากระแส​หนึ่งที่มาแรงมากทั่วโลก คือ Art Toy หรือ ของเล่นศิลปะ ซึ่งไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทย เห็นได้จากโซเชียลมีเดียของดาราคนดัง นิทรรศการ และร้านค้าใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย วันนี้ True Digital Academy จะพาทุกคนมารู้จักกับแบรนด์ Art Toy ชื่อดังระดับโลก “POP MART” กันให้มากขึ้นมาเลนส์มุมมองดิจิทัล ว่าเขาสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไรในยุคนี้

🖼️ มาทำความรู้จักกันก่อนว่า Art Toy คืออะไร ต่างกับฟิกเกอร์ยุคก่อนอย่างไร?

Art Toy หรืออีกชื่อที่คนมักเรียกว่า Designer Toy คือการผสมผสมผสาน Pop Culture เข้าไปในของเล่นสำหรับการสะสมเพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย มักออกแบบมาจากแรงบันดาลใจต่าง ๆ รอบตัว เช่น สัตว์เลี้ยง ความชอบ เทรนด์ต่าง ๆ ที่อยู่ในกระแส ต่างจากฟิกเกอร์หรือโมเดลทั่วไปจะถูกผลิตมาจากต้นแบบของตัวการ์ตูนในเกมหรือภาพยนตร์

🧸 “POP MART” ร้านขายของเล่น ที่กำไรไม่เล่น


หากพูดถึงแบรนด์ Art Toy ที่นักสะสม Art Toy น่าจะต้องนึกถึงแบรนด์แรก ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นแบรนด์ “POP MART” จากประเทศจีน ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดย Wang Ning ผู้หลงใหลในศิลปะและของเล่น ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างแบรนด์อาร์ตทอยที่เข้าถึงผู้คนได้ง่ายและครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย รายได้ของ Pop Mart มีการเติบโตขึ้นทุกปี จนปัจจุบัน POP MART มีมูลค่าตลาดถึง 1.3 พันล้านบาท และเพียงแค่ 6 เดือนแรกของปีที่แล้วก็ทำกำไรสุทธิ (Net profit) ไปถึง 2.2 พันล้านบาท


💹 เจาะเคล็ดลับ POP MART ทำการตลาดในยุคดิจิทัลอย่างไรถึงปังไม่หยุด

  • POP MART มีแอปพลิเคชันเป็นของตัวเอง และจัดการโซเชียลมีเดียอย่างชาญฉลาด แอปพลิเคชันช่วยให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ POP MART ยังใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพในการโปรโมตสินค้าและสร้างกระแสความนิยมให้กับแบรนด์

(ที่มาภาพ: https://play.google.com/store/apps/details?id=com.popmart.global&hl=fr&gl=US)


  • POP MART เล่นกับกระแสความสนใจงานนิทรรศการศิลปะ ในปีที่ผ่านมา หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากับน้อง Cry Baby หนึ่งใน Art Toy ฝีมือศิลปินไทยภายใต้แบรนด์ POP MART กันมากขึ้น จากงานนิทรรศการศิลปะที่น่าดึงดูดความสนใจ โดยการตั้งตัวละคร Cry Baby ขนาดมหึมาใจกลางห้าง River City จนเกิดเป็นกระแสคนตามถ่ายรูปกับงานศิลปะชิ้นนี้ และตัวนิทรรศการแชร์ลงโซเชียลมีเดียกันมากมาย

(ที่มาภาพ: https://www.pptvhd36.com/travel/thailand/201822 )


  • POP MART ใช้กลยุทธ์กระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกอยากซื้อมากขึ้น โดยทำงานร่วมกับศิลปินชื่อดัง ในการผลิตสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และออกแบบเป็นคอลเลกชัน เพื่อให้เหมาะแก่การสะสม ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยคอลเลกชันแรกที่ POPMART ออกวางจำหน่ายคือ Molly ผลงานของ Kenny Wong ศิลปินชื่อดังชาวฮ่องกง เด็กหญิงตาโตเบะปากมีเอกลักษณ์ Molly กลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และช่วยสร้างกระแสความนิยมให้กับแบรนด์ POP MART ในเวลาต่อมา

(ที่มาภาพ:https://www.thetoychronicle.com/news/pop-mart-x-kenny-wong-presents-molly-imaginary-wandering-blind-box-series/ )


  • POP MART ใส่ไอเดียธุรกิจใหม่ ๆ เพิ่มความสนุกให้การขาย โดยนำแนวคิด “กาชาปอง” มาใช้ในการขายของเล่น โดยการขายเป็น “กล่องสุ่ม (Blind Box)” ที่แต่ละกล่องจะมีตัวละครที่แตกต่างกันไปให้ลูกค้าลุ้นกันเอง กลยุทธ์นี้สร้างความรู้สึกตื่นเต้นและท้าทายให้กับลูกค้า และกระตุ้นให้พวกเขาอยากซื้อซ้ำเพื่อลุ้นหาตัวละครที่หายาก และตัวที่มีจำนวนจำกัดยังได้ราคารีเซลที่สูงมากด้วย

(ที่มาภาพ:https://www.japanla.com/blogs/news/new-pop-mart-blind-boxes-on-japanla-com )


  • POP MART ร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกขยายฐานลูกค้า ทั้ง Disney, Sanrio, Warner Bros., LINE Friendและอื่น ๆ รวมถึงนักออกแบบที่มีชื่อเสียงอย่าง Kenny, Pucky และ Kasing Lung ในการเปิดตัวสินค้าป็อปคัลเจอร์หลากหลายจากตัวละครคลาสสิก ความร่วมมือเหล่านี้ช่วยขยายฐานลูกค้าของ POP MART ไปสู่กลุ่มคนที่ชื่นชอบตัวละครเหล่านี้

 

ด้วยเหตุนี้ POP MART จึงกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ Art Toy ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในโลกยุคดิจิทัล แบรนด์ได้เปลี่ยนสินค้าที่มีความเฉพาะกลุ่มอย่างการสะสมของเล่น ให้ “แมส” ด้วยกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและการทำการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ POP MART สามารถสร้างกระแสความนิยมให้กับแบรนด์และขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ส่งผลให้ POP MART กลายเป็นแบรนด์อาร์ตทอยชั้นนำระดับโลกที่ไม่ควรมองข้าม

Source: thestandard, shopee, positioningmag
————————————————-

True Digital Academy ชวนคนทำงานมาอัปเดตสกิลสุดฮอต ใน Virtual Event แรกของปี “Digital Skills Jumpstart 2024” ที่จะพาไปพบกับโอกาสในการทำงาน ฟังข้อมูล insight จากผู้เชี่ยวชาญ และแนวทางที่จะช่วยให้คุณก้าวกระโดดสู่ความสำเร็จในปี 2024

อัปเดตเทรนด์ที่ควรรู้ไปด้วยกันผ่าน session เหล่านี้…
🚀Jobs in Demand: ตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการ
🔥 Skills in Demand: ทักษะที่จะทำให้โดดเด่นในตลาด
💼 How to Get the Job: ทำอย่างไรให้ได้งานที่โดนใจ

ลงทะเบียนฟรี คลิก https://bit.ly/3RS6VMT

แชร์