7 เทรนด์ 'BIG DATA' เตรียมปรับตัวให้ทัน ในปี 2022
7 เทรนด์ 'BIG DATA' เตรียมปรับตัวให้ทัน ในปี 2022
Data
3 นาที
25 ม.ค. 2022
แชร์
Table of contents
หากพูดถึงเรื่อง Big Data หลายคนคงจะรู้จักและวางแผนนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาองค์กร และการทำงานของตัวเองกันบ้างแล้ว โดยทางนิตยสาร Forbes เขาได้ให้เหล่าสมาชิก Forbes Business Development Council มาลงความเห็นถึงเทรนด์ Big Data ที่สำคัญและกำลังมาแน่ในปี 2022 นี้ เราก็ได้หยิบบางเทรนด์ที่น่าจะเป็นเทรนด์สำคัญในประเทศไทย มาอัพเดตให้ทุกคนที่สนใจใช้ Data อย่างมีประสิทธิภาพศึกษากันไว้ก่อน ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
7 เทรนด์ของ Big Data ในปี 2022 ที่น่าจับตา ช่วยพัฒนาองค์กร ธุรกิจ และการทำงาน
เทรนด์ #1: Multiple Data Stacks
หลายๆองค์กรมีแน้วโน้มที่จะบริหารจัดการข้อมูลแบบ “กระจายศูนย์อำนาจ” เนื่องจากโครงข่ายข้อมูลที่หลากหลายจะช่วยเปิดมุมมองขององค์กรให้กว้างยิ่งขึ้น และด้วยเหตุนี้ หลายฝ่ายในองค์กรก็มีความต้องการเกี่ยวกับธุรกิจและข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจแตกต่างกัน นำมาสู่เทรนด์ Multiple Data Stacks ซึ่งคือการที่องค์กรใช้วิธีการจัดเก็บข้อมูลมากกว่าแค่หนึ่ง Stacks ส่งผลให้ทีม Data และ Business จะต้องการทรัพยากรด้าน IT และคนที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Domain จำนวนมากขึ้น
เทรนด์ #2: Search Engine Optimization (SEO)
การทำ SEO เป็นเทรนด์ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตการค้นหาข้อมูลจะถูกกำหนดด้วยปริมาณข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งจะช่วยให้ไกด์แนวทางให้องค์กรและธุรกิจปรับปรุงพัฒนาเว็บไซต์และคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์การค้นหามากยิ่งขึ้น Big data กำลังวิเคราะห์แนวโน้มความเป็นไปของโลกใบนี้ และการทำ SEO ก็เป็นหนึ่งในเทรนด์ด้านเทคโนโลยีที่สำคัญในมุมมองของการทำการตลาดในยุคนี้
เทรนด์ #3: AI และ Machine Learning (ML)
หากพูดถึงโลกแห่งอนาคตก็คงต้องถึงเทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์สุดแสนอัจฉริยะ ที่จะเข้ามาช่วยลดภาระงานบางอย่างของมนุษย์ ส่วน ML คือการที่ AI สามารถสอนตัวเองต่อได้ ทำให้ลดภาระในการป้อนข้อมูลจำนวนมหาศาลให้ AI เรียนรู้ ถ้าเราเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจเกี่ยวกับ AI และ ML ว่าทำงานอย่างไร รู้ว่าควรนำไปใช้กับงานประเภทใด ก็ไม่ต้องกลัวว่า AI จะมาแย่งงานแต่อย่างใด เพราะอนาคตในโลกของการทำงานยังคงต้องการมนุษย์มาเป็นผู้ควบคุม ดูแลการทำงานของ AI อยู่ดี
เทรนด์ #4: Seasonal Buying Cycles
การนำเสนอสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าในช่วงเวลาและโอกาสที่ “ใช่” จะช่วยให้ประสบการณ์การซื้อของดียิ่งขึ้น ซึ่งการจะรู้ว่าเวลาและโอกาสที่ใช่คือช่วงเวลาใด ก็จำเป็นอย่างที่ยิ่งที่จะต้องอาศัยการใช้ข้อมูลพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าในการช่วยตัดสินใจ จึงจะทำให้เราสามารถเข้าไปเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้อย่างเป็นธรรมชาติในเวลาที่ถูกต้องที่สุด นอกจากจะช่วยลดความรำคาญโฆษณาของลูกค้าแล้ว แน่นอนว่าโอกาสประสบความสำเร็จในการขายก็มีสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
เทรนด์ #5: Hybrid Data Storing
หลายองค์กรเริ่มใช้กลยุทธ์การจัดเก็บข้อมูลแบบผสม คือ จัดเก็บทั้งบน Cloud ไว้เป็นสาธารณะ และเก็บไว้ในฐานข้อมูลของบริษัทแบบออฟไลน์ ด้วยเหตุผลเรื่องนโยบายของบริษัท การควบคุม และเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล นี่จึงเป็นโอกาสทองของเหล่าบริษัทซอฟต์แวร์ ที่จะพัฒนา Platform สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลที่ทำงานได้ทั้งกับข้อมูลบน Cloud และฐานข้อมูลออฟไลน์
เทรนด์ #6: Digitized Customer Journey
ไม่มีอะไรจะเยี่ยมไปกว่าการวางแผน Customer Journey ได้อย่างรอบคอบตั้งแต่ต้นจนจบ ต้องขอบคุณเทคโนโลยี Big Data ในยุคปัจจุบันที่ทำให้เราสามารถวางแผน Customer Journey ผ่านการลองนำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลาย ด้วยราคาที่ดึงดูด โดยใช้ Insight แบบ Real-Time ลองจินตนาการดูว่าจะเจ๋งขนาดไหนเมื่อลูกค้าเข้ามาในห้างสรรพสินค้าและเดินไปซื้อรถเข็นเด็ก และทางห้างเองสามารถใช้ Marketing Technology ส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันมอบข้อเสนอ ราคานมผงและผ้าอ้อมเด็กในราคาสุดพิเศษมาให้ทันที
เทรนด์ #7: Visual Data Presentations
นอกเหนือจากการเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว ทักษะการนำเสนอข้อมูลด้วยภาพ (Visual Data Presentations) เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่สำคัญมากในยุคปัจจุบัน เพราะต่อให้ข้อมูลที่เก็บมามีคุณมาก หรือวิเคราะห์เก่งเพียงใด แต่สุดท้ายถ้าหากไม่สามารถ “สื่อสาร” ให้คนอื่นเข้าใจได้ก็น่าเสียดาย การนำเสนอด้วยภาพเป็นที่นิยมเนื่องจากการใช้ภาพทำให้เข้าใจได้ง่าย และมีความน่าสนใจมากกว่าการนำเสนอข้อมูลสถิติตัวเลขเพียงอย่างเดียว
Source: 1
สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจและการทำงาน ฟังทางนี้เลย! ตอนนี้ True Digital Academy มีคอร์สเรียน E-learning เริ่มต้นเรียนรู้พื้นฐานแนวคิด ภาพรวมของการวิเคราะห์ข้อมูล ในเวลา 1 ชั่วโมง กับ Introduction to Data Analytics และ เรียนรู้การนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและองค์กร ฝึกการใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นผ่านกรณีตัวอย่าง ในเวลา 4 ชั่วโมง กับ Data Analytics: Foundation สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครได้เลย ที่ https://bit.ly/3fVwR6y