ในยุคที่ข้อมูลคือขุมพลัง การนำเสนอ Data Visualization ไม่ได้เป็นแค่การจัดเรียงตัวเลขให้ดูดี แต่เป็น “ศิลปะแห่งการเล่าเรื่อง” ที่ทำให้ข้อมูลซับซ้อนกลายเป็นความเข้าใจที่จับต้องได้ องค์กรที่ใช้ Data Visualization อย่างชาญฉลาด สามารถ ตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น เข้าใจลูกค้าได้ลึกขึ้น และสร้างกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์อนาคต

นี่คือตัวอย่าง 7 Data Visualization ระดับตำนาน ที่เปลี่ยนวิธีคิดของคนทั้งโลก และพิสูจน์แล้วว่า “ข้อมูลที่ดี ไม่ได้แค่บอกเล่าเรื่องราว—แต่เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจได้จริง”

7 สุดยอดผลงาน Data Visualization ที่พลิก ‘วิธีสื่อสารข้อมูล’ ของคนทั้งโลก 

1.Napoleon March Map โดย Charles Joseph Minard


ในปี ค.ศ. 1812 นโปเลียนเดินทัพไปยังกรุงมอสโกเพื่อพิชิตเมือง แต่มันกลับเป็นหายนะ! จากทหารประมาณ 470,000 นาย เขากลับมาพร้อมกับทหารเพียง 10,000 นาย แผนภูมินี้ได้เล่าเรื่องราวของการเดินทัพในครั้งนั้น และกลายเป็นหนึ่งในการแสดงข้อมูลด้วยภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดตลอดกาล เป็นการแสดงข้อมูลที่ทั้งมีประสิทธิภาพ และเต็มไปด้วยรายละเอียด

แผนที่แสดงรายละเอียดการเดินทางไปกลับของกองทัพนโปเลียน ความกว้างของเส้นแสดงถึงจำนวนทหารทั้งหมด ใช้สีแสดงถึงทิศทาง (สีเหลืองสำหรับการเดินทางไปยังมอสโก สีดำสำหรับการเดินทางกลับ) ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพสะเทือนใจที่แสดงให้เห็นถึงหายนะของกองทัพ ซึ่งเปลี่ยนแนวทางการใช้ข้อมูลทางการทหารและประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล
เข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่: https://ageofrevolution.org/200-object/flow-map-of-napoleons-invasion-of-russia/

2.New Chart of History โดย Joseph Priestley


แผนภูมิเวลา (Timeline) ที่แสดงจักรวรรดิและอิทธิพลทางวัฒนธรรมในอดีต เป็นครั้งแรกที่มีการใช้เส้นเวลาอย่างเป็นระบบในการอธิบายประวัติศาสตร์ ทำให้เกิดการพัฒนาแนวคิด Infographic สำหรับนำเสนอข้อมูลเชิงซับซ้อนในรูปแบบที่เข้าใจง่าย

ไปสำรวจแผนที่ประวัติศาสตร์: https://exhibits.stanford.edu/dataviz/catalog/tm577xw2724

3. Interactive Government Budget โดย US Office of Management and Budget (2016)


รัฐบาลสหรัฐอเมริกา มีงบประมาณที่ซับซ้อนและเข้าใจยาก แผนภูมิต้นไม้ (Treemap) นี้ ซึ่งสร้างขึ้นโดยทำเนียบขาวในช่วงที่บารัค โอบามาเป็นประธานาธิบดี แสดงการแจกแจงงบประมาณของสหรัฐฯ ปี 2016 เพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งเป็นหนึ่งใน Interactive Dashboard ระดับตำนานซึ่งทำให้ประชาชนเข้าใจการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลได้ง่ายขึ้น นี่คือตัวอย่างของการใช้ Data Visualization เพื่อสร้างความโปร่งใสและเชื่อมโยงภาครัฐกับประชาชน

ลองใช้งานแดชบอร์ดแบบ Interactive: https://www.usaspending.gov/

4. After Babylon โดย DensityDesign


การทำความเข้าใจขอบเขตการแผ่ขยายอิทธิพลด้านภาษานั้นเป็นสิ่งที่อธิบายให้เห็นภาพชัดเจนยากมาก ว่ามีภาษาอยู่จริงๆ กี่ภาษา ภาษาเหล่านั้นพูดกันที่ไหนบ้าง แพร่หลายทั่วโลกมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะสำหรับคนไม่ได้เดินทาง หรือไม่ค่อยได้มีปฏิสัมพันธ์กับภาษาอื่นๆ

โดยการนำเสนอการใช้ภาษาต่างๆ ของโลก ทั้งหมด 2,678 ภาษา ในรูปแบบแผนที่ และกราฟแบบ Interactive โดยใช้ข้อมูลจาก World Atlas of Language Structures แสดงให้เห็นว่าแต่ละภาษามีต้นกำเนิดจากที่ไหน ใช้พูดกันที่ใดบ้าง และมีประชากรที่พูดภาษานั้นๆ จำนวนเท่าไร นอกจากนี้ยังแสดงความสัมพันธ์ระหว่างภาษา เช่น ตระกูลภาษา คำยืม และการแลกเปลี่ยนคำระหว่างภาษาอีกด้วย เจ๋งสุดๆ

ไปลองเล่นกันดูได้ที่นี่: http://www.puffpuffproject.com/languages.html

5. Film Dialogue (broken down by gender) โดย Hanah Anderson และ Matt Daniels


งานวิจัยชิ้นนี้วิเคราะห์บทพูดจากหนังดังระดับตำนาน 2,000 เรื่อง โดยนับว่าตัวละครชายและหญิงได้พูดกี่ประโยค ผลที่ออกมาไม่ได้น่าแปลกใจ แต่ก็น่าตกใจ เราอาจเห็นกันอยู่แล้วว่าหนังแอ็คชั่นที่มีผู้หญิงเป็นตัวละครนำนั้นหายาก แต่เมื่อได้เห็นตัวเลขชัดๆ ว่าผู้หญิงมีบทน้อยกว่าผู้ชายในหนังทุกประเภทขนาดไหน

ภาพข้อมูลนี้แบ่งการนำเสนอเป็น 4 ส่วนด้วยกัน ได้แก่
1. วิเคราะห์หนังดิสนีย์โดยเฉพาะ
2. วิเคราะห์ภาพรวมของวงการ ผ่านหนัง 2,000 เรื่อง
2. แถบสีให้ค้นหาหนัง และกรองดูข้อมูลได้ง่ายๆ
3. วิเคราะห์ว่าหนังเลือกปฏิบัติเรื่องอายุระหว่างนักแสดงชายหญิงอย่างไรบ้าง
นอกจากจะความถึกในการวิเคราะห์หนัง 2,000 กว่าเรื่องและเปิดเผยความจริงที่น่าตกใจแล้ว สิ่งที่น่าชื่นชมอีกอย่างคือความโปร่งใส ทั้งข้อมูลและวิธีการวิเคราะห์ถูกเปิดเผยอย่างละเอียดให้ทุกคนเข้าถึงได้ ดูของจริงได้ที่นี่: https://pudding.cool/2017/03/film-dialogue/

6. Selfiecity โดย OFFC


อย่าเพิ่งเลื่อนผ่านงานนี้ไปเพราะคิดว่ามันแค่วิเคราะห์เซลฟี่! เพราะ Selfiecity เผยให้เห็นมุมมองที่น่าทึ่งของการถ่ายเซลฟี่ทั่วโลก พวกเขาศึกษาเซลฟี่กว่า 120,000 ภาพ เพื่อดูว่าคนเราถ่ายเซลฟี่กันยังไง และสิ่งที่น่าทึ่งคือความละเอียดในการวิเคราะห์ทุกแง่มุมของการถ่ายเซลฟี่ ตั้งแต่การเอียงหัว ท่าทางยอดนิยมในแต่ละเมือง ไปจนถึงความถี่ของรอยยิ้มตามช่วงอายุและเพศ

คงไม่แปลกที่คนถ่ายเซลฟี่ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว แต่คุณอาจแปลกใจที่รู้ว่าเซลฟี่ไม่ได้ฮิตขนาดที่คนคิดกัน หรือที่ผู้หญิงใน Sao Paulo ประเทศบราซิลชอบเอียงหัวสุดๆ เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ และยังพบว่าคนกรุงเทพฯ ชอบถ่ายเซลฟี่แบบยิ้มกันเป็นว่าเล่น! ในยุคที่โซเชียลมีเดียเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การศึกษาปรากฏการณ์ระดับโลกแบบนี้ช่างน่าสนใจ และที่เพิ่มความสนุกคือ เว็บไซต์นี้ยังมีฟีเจอร์ให้เราลองเล่นกับฟิลเตอร์แบบพิเศษ เพื่อสำรวจโลกของเซลฟี่ได้ลึกยิ่งขึ้น ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่: https://selfiecity.net/

7. Every Upcoming Solar Eclipse (until 2080) โดย Denise Lu


หลังจากสุริยุปราคาเต็มดวงในเดือนสิงหาคม 2017 ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบเกือบศตวรรษที่เงาของดวงจันทร์ทอดยาวจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งของสหรัฐฯ สำนักข่าว Woshington Post ได้สร้างแผนที่โลกแบบ Interactive ที่แสดงเส้นทางของสุริยุปราคาตั้งแต่ปี 2017 ไปจนถึง 2080 ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ ถ้าเราใส่ปีเกิดลงไป มันจะคำนวณให้ว่าเรามีโอกาสเห็นสุริยุปราคาอีกกี่ครั้งในชีวิต! ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่: Washington Post


สรุป
Data Visualization ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือในการนำเสนอข้อมูล แต่เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อองค์กรและโลก การใช้ Data Visualization อย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้เราสามารถเข้าใจข้อมูลที่ซับซ้อน ตัดสินใจอย่างชาญฉลาด สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

การจะสร้าง Data Visualization ที่ทรงพลังได้นั้น ต้องอาศัยทั้งความเข้าใจในข้อมูล ทักษะการออกแบบ และศิลปะการเล่าเรื่อง นี่คือเหตุผลที่ “Data Ready Bootcamp“ ได้รวมทักษะ Data Visualization และ Data Storytelling ไว้ในหลักสูตรด้วย เพราะเราเชื่อว่าการวิเคราะห์ข้อมูลที่ดีต้องมาพร้อมกับการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

ในคอร์ส Data Ready Bootcamp นอกจากความรู้ และทักษะจำเป็นสำหรับการทำงาน Data คุณจะได้…
✨ลงมือปฏิบัติผ่านการทำโปรเจค
✨เรียนรู้กรณีศึกษาจากธุรกิจจริง
✨แนะแนวทางเตรียมพร้อมย้ายสายสู่งาน Data
✨ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในสายงานแบบตัวต่อตัว
✨คอนเนคชันสำหรับคนวัยทำงาน

พร้อมแล้วหรือยังที่จะพัฒนาทักษะการสื่อสารข้อมูลของคุณให้ทรงพลังยิ่งขึ้น? มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Data Ready Bootcamp และเรียนรู้ทักษะ Data Analytics ตั้งแต่เริ่มต้น ถึงการต่อยอดระดับสูงที่จะช่วยให้คุณสื่อสารข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างผลกระทบ และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้วยข้อมูลไปด้วยกัน
สำรองที่นั่งได้ที่นี่:: https://www.truedigitalacademy.com/course/data-ready-bootcamp

ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐาน ก็เรียนได้ 📌