5 กฎ ออกแบบ App/Web เพื่อมัดใจผู้ใช้งาน

5 กฎ ออกแบบ App/Web เพื่อมัดใจผู้ใช้งาน

3 นาที

13 ธ.ค. 2022

แชร์

ทุกวันนี้เราเปิดใช้ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลการใช้โซเชียลติดต่อกับเพื่อนและครอบครัว ดูวีดิโอเพื่อความบันเทิง สั่งอาหารเดลิเวอรี่ และซื้อของผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ จนคุ้นชินกับการใช้งานสิ่งที่เรียกว่า User Interface หรือ UI คือหน้าตาภายนอกของผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เช่น App/Web ที่ผู้ใช้งานมีปฏิสัมพันธ์ด้วย ตัวอย่างส่วนประกอบของ UI ได้แก่ ปุ่มควบคุมเช่น ปุ่ม (Buttons) ช่องกรอกข้อมูล (Text Fields)  หรือ ปุ่มนำทาง เช่น สไลด์เดอร์ (Slider) ไอคอน (Icons) ต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม การออกแบบที่ดีไม่ใช่เพียงแค่การคำนึงถึงเพียงแค่เรื่องความสวยงาม มีผู้ใช้ไม่น้อยที่เริ่มหมดความอดทนกับแอปหรือเว็บที่ไม่สามารถให้ได้ในสิ่งที่คาดหวัง เช่น โหลดช้าเกินไป ไม่เข้าใจวิธีใช้ หรือส่วนประกอบ UI ต่าง ๆ ที่ทำให้เข้าผิด สร้างความไม่สะดวกในการใช้งานสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ดีไซน์เนอร์ไม่ควรมองข้าม เพราะส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ของลูกค้า และอาจจะทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไปใช้งานผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งได้ทันที!

วันนี้มาดู กฎ 5 ข้อ ออกแบบ App/Web เพื่อมัดใจผู้ใช้งานให้อยู่หมัด

5 กฎ ออกแบบ App/Web เพื่อมัดใจผู้ใช้งาน

1. Fast — การออกแบบให้ผลิตภัณฑ์ตอบสนองผู้ใช้เร็ว นักออกแบบต้องบาลานซ์ระหว่างลูกเล่นอลังการกับความเร็วในการทำงานของแอป เช่น การเลือกใช้ Rich content อย่าง ส่วนประกอบที่ขยับได้ (Dynamic Elements) ไฟล์ JavaScript ขนาดใหญ่, หรือภาพกราฟฟิคที่มีความซับซ้อนสูงอาจจะกระทบความเร็วของแอปได้ ทั้งนี้สามารถทำการทดสอบด้วย Performance Testing Tool ได้ เช่น webpagetest.org

2. Feels Fast — นอกจากความเร็วจริง ๆ แล้ว การออกแบบการเคลื่อนไหวหรือวิธีที่ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับแอปก็สามารถเพิ่มความรู้สึกว่าเร็วได้ด้วย อาทิ การแสดงเค้าโครงเพจ(Skeletons) ก่อนขณะโหลดคอนเทนต์ข้อความและภาพ จะทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าผลิตภัณฑ์นั้นทำงานเร็วกว่าการโชว์เพียงแค่หน้าขาวเปล่า ๆ ทั้งหน้า

3. Simple — ความเรียบง่าย จะช่วยให้ผู้ใช้งาน “เก็ท” วิธีการใช้งานได้เร็วมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องอ่านวิธีการใช้งาน เพราะหากผลิตภัณฑ์นั้นต้องใช้เวลาในการเรียนรู้เยอะ อาจจะทำให้ผู้ใช้ถอดใจไปเสียก่อน

4. Works Everywhere — ผลิตภัณฑ์ควรสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์หลากหลายประเภท เช่น โทรศัพท์ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ บนหลายระบบปฎิบัติการ เช่น Android iOS และอื่น ๆ รวมถึงการออกแบบให้สามารถทำงานได้แม้อยู่ในที่ที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้ยาก ก็นับเป็นความท้าทายของนักออกแบบ

5. For Everyone — การออกแบบที่ดีควรคำนึงถึงผู้ใช้ทุกกลุ่ม รวมถึงผู้ที่มีความต้องการพิเศษต่าง ๆ เช่น ต้องการตัวอักษรขนาดใหญ่ สีสันตัดกันชัดเจน ไอคอนสื่อความหมายเป็นสากล เป็นต้น

จะสามารถวัด Performance App/Web ได้อย่างไร?

image via freepik


วิธีการวัดผลว่าผลิตภัณฑ์ที่เราออกแบบมาใช้งานได้ดีหรือไม่ สามารถวัดผลได้จากสติข้อมูลการใช้งานจริง อาทิ
  • Retention Rate อัตราการใช้ผลิตภัณฑ์ซ้ำ เพื่อดูว่าผู้ใช้งานที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ของเราติดใจ และกลับมาใช้ซ้ำหรือไม่ หรือมีเพียงแค่ผู้ใช้หน้าใหม่เท่านั้น ซึ่งการหาผู้ใช้ใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ในระยะยาวจะเปลืองงบประมาณ
  • Churn Rate อัตราการเลิกใช้แอป โดยคำนวนจาก (จำนวนลูกค้าที่เสียไป ÷ จำนวนลูกค้าทั้งหมด) × 100 เพื่อให้รู้ว่าแอปมีปัญหาหรือเปล่า
  • Daily and Monthly Active Users (DAU & MAU) อัตราการใช้งานรายวันและรายเดือน
  • Average Session Length ระยะเวลาเฉลี่ยที่ใช้ในแต่ละหน้า
  • Customer Lifetime Value (CLV) มูลค่าที่ลูกค้าแต่ละรายใช้จ่ายไปกับสินค้าหรือบริการของธุรกิจนั้น ๆ ตั้งแต่เริ่มเป็นลูกค้าจนถึงวันที่เลิกเป็นลูกค้า
  • Average Revenue Per User (ARPU) รายได้เฉลี่ยของผู้ให้บริการต่อลูกค้าหนึ่งคน (คิดเป็นรายเดือน)


Source : uxplanet, clevertap

การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ดี เป็นจุดเริ่มต้นของการส้รางผลลัพธ์การใช้งานที่ดี สำหรับนักออกแบบหรือผู้ที่สนใจเรียนรู้ออกแบบ Digital Product ให้ใช้งานง่าย มีความสวยงาม ด้วยเครื่องมือที่มืออาชีพเลือกใช้ สามารถดูรายละเอียด Workshop DIY: User Interface With ‘Figma’ และสำรองที่นั่งได้ที่:: http://bit.ly/3UUDXKG
————————————————-
สามารถติดตามความรู้และคอร์สเรียนที่น่าสนใจจาก True Digital Academy ได้ทุกช่องทาง
Website – https://bit.ly/3e9QZPw 
Facebook – https://bit.ly/391XSkF
LinkedIn – https://bit.ly/3p7x08V 
Instagram – https://bit.ly/2LwX5Ra
TikTok – https://bit.ly/3v8e0wV

แชร์