งานที่กำลังจะหายไปในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้คืองานรูทีนที่มีกระบวนการทำงานอันซ้ำซาก และทำในสิ่งเดิม ๆซ้ำ ๆ และในครั้งนี้แม้แต่งานที่ต้องใช้ทักษะสูงก็ไม่ปลอดภัย หากงานนั้นยังคงอาศัยการทำตามกระบวนการเดิม ๆ แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น เรามาดู 10 อาชีพที่เราน่าจะคุ้นเคย แต่กำลังจะหายไปเพราะการถูกแทนที่ในเวลาอีกไม่นาน
10 อาชีพที่คุณคุ้นเคย ที่อาจถูกเทคโนโลยีมาแทนที่
10 อาชีพที่คุณคุ้นเคย ที่อาจถูกเทคโนโลยีมาแทนที่
Tech
4 นาที
30 เม.ย. 2021
แชร์
Table of contents
เราต่างรู้ดีว่าในวันนี้วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีกำลังจะก่อให้เกิดการแทนที่ของแรงงานโดยเทคโนโลยีใหม่ ๆ จากการคาดการณ์ เพียงในปี 2021 ที่กำลังจะมาถึงนี้ 6% ของงานในสหรัฐจะถูกแทนที่โดยระบบอัตโนมัติ และทำให้งานที่เราคุ้นเคยหายไปตลอดกาล
1. พนักงานธนาคาร
ครั้งหนึ่ง ATM เคยลดจำนวนคนทำงานในอาชีพนี้ไปอย่างมหาศาล แต่อย่างไรก็ตามผู้คนยังคงต้องพึ่งพิงบริการธนาคารในสาขากันอยู่ แต่ในวันนี้น้อยคนนักที่จะไปใช้บริการธนาคารสาขา และบริการของตู้ ATM ก็พัฒนาขึ้นจนสามารถให้บริการแทนพนักงานธนาคารได้เกือบทั้งหมด
พนักงานธนาคารเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เราเห็นว่าการที่ตำแหน่งงานจะหายไปจากการถูกแทนที่ เทคโนโลยีเหล่านั้นอาจไม่ต้องล้ำหน้าหรือพึ่งพาปัญญาประดิษฐ์ เพียงแค่สามารถให้บริการเดียวกันในรูปแบบที่ผู้ใช้สะดวกขึ้นเท่านั้นก็สามารถแทนที่คนทำงานได้แล้ว
2. นักวิเคราะห์การเงิน
ในวันนี้แม้แต่นักวิเคราะห์การเงินที่เก่งที่สุด เชี่ยวชาญที่สุดก็ยังไม่สามารถรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำเท่ากับปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และกระบวนการวิเคราะห์ของคอมพิวเตอร์ยังเร็วกว่าคนมากนัก จากการคาดการณ์ ในเวลาไม่ถึงสิบปี 30% ของตำแหน่งงานทางด้านการเงินทั้งหมดจะถูกแทนที่โดยระบบอัตโนมัติ
นักวิเคราะห์การเงินนี้ เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าในตำแหน่งงานที่อาศัยความเชี่ยวชาญระดับสูง ในท้ายที่สุดมนุษย์ก็ไม่อาจเอาชนะคอมพิวเตอร์ในด้านของการคิดคำนวน ต่อไปงานที่อาศัยเพียงแค่การคิดคำนวนเพียงอย่างเดียวจึงล้วนตกอยู่ในความเสี่ยงที่คอมพิวเตอร์จะมาทำงานแทนที่ได้ทั้งหมด
3. ผู้พิจารณาประกัน
ผู้พิจารณาประกัน คือตำแหน่งของผู้ประเมินผลการขอเอาประกันว่าจะสามารถใช้สิทธิ์จากเงินประกันได้ไหม ซึ่งเป็นตำแหน่งงานที่ต้องอาศัยการคิดคำนวน ไปจนถึงการประเมินข้อมูลที่หลากหลาย แต่ในตอนนี้เริ่มมีรายงานแล้วว่าบริษัทประกันหลายแห่ได้นำเอาปัญญาประดิษฐ์มาทำหน้าที่นี้เอง
ไม่เพียงเพราะว่าปัญญาประดิษฐ์สามารถประเมินข้อมูล และประมวลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้ลูกค้าที่ยื่นขอประกันสามารถได้ผลตอบรับที่เร็วขึ้น แต่การประเมินด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่มีวิธีการพิจารณาที่ชัดเจน ทำให้ปัญหาด้านจรรยาบรรณของผู้ประกอบอาชีพพิจารณานั้นหายไปโดยสมบูรณ์
4. ผู้ดูแลสต็อกสินค้า
ที่ผ่านมายังไม่มีเทคโนโลยีหุ่นยนต์ไหนที่สามรถทำให้หุ่นยนต์จัดการสต็อกสินค้าทั้งหมดได้ด้วยตัวเองโดยไม่มีมนุษย์มาเกี่ยวข้อง เนื่องจากศักยภาพในการรับรู้สภาพแวดล้อมของหุ่นยนต์นั้นจำกัด
แต่ล่าสุด Tally หุ่นยนต์จัดการสต็อกสินค้า สามารถเพิ่มความสามารถในการรับรู้สภาพแวดล้อมด้วยการใช้เซนเซอร์ต่าง ๆ ที่ออกแบบมาเพื่องานด้านการเติมและตรวจสอบสต็อกสินค้า และทำให้หุ่นยนต์สามารถเข้ามาทำงานนี้แทนที่มนุษย์ได้โดยสมบูรณ์
5. คนงานก่อสร้าง
ในกรณีนี้เองก็ใกล้เคียงกับงานของผู้ดูแลสต็อกสินค้า เมื่อ SAM (Semi-Automated Mason) หุ่นยนต์ก่อสร้าง สามรถทำงานในด้านนี้ได้ และยังสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเหนือกว่ามนุษย์
จากรายงานบอกว่า SAM สามารถเรียงอิฐในการสร้างอาคารได้ถึง 1,200 ก่อนต่อวัน ในขณะที่คนทำงานส่วนใหญ่สามารถทำได้เพียงแค่ 300 – 500 ก้อนต่อวันเท่านั้น
6. คนงานโรงงาน
สำหรับงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิต ไม่ได้มีเครื่องจักรใดเครื่องจักรหนึ่งสามารถเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างโดดเด่น แต่เป้นทิศทางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เมื่อแรงงานในสายพานการผลิตจำนวนมากกำลังสูญเสียงานให้กับระบบอัตโนมัติ
แม้แต่ในประเทศจีน ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องค่าแรงถูก และเป็นที่ตั้งของโรงงานจำนวนมาก ก็มีการแทนที่คนทำงานโดยหุ่นยนต์ครั้งใหญ่ เช่น Foxconn โรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วน iPhone และ Xbox ก็มีรายงานว่าพวกเขาได้แทนที่แรงงานกว่า 60,000 คนด้วยเครื่องจักร
7. คนขับแท็กซี่
หนึ่งในเทคโนโลยีต่อไปที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังจากนี้คือเทคโนโลยี Auto-Pilot หรือยานยนต์ขับเคลื่อนอันโนมัติ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในกระบวนการพัฒนา และมีติดตั้งอยู่ในรถยนต์บางยี่ห้อแล้ว
การถูกใช้อย่างแพร่หลายของยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัตจะไม่ได้เพียงแค่ทำให้อาชีพอย่างคนขับแท็กซี่หายไป แต่จะเปลี่ยนวิธีการที่ผู้คนเดินทางในชีวิตประจำวันไปตลอดกาล
8. เกษตกร
ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการเกษตรได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และถูกใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะไม่ใช่แค่ความสะดวกสบายที่ในการทำเกษตรที่เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำงานแทน แต่เป็นความแม่นยำ และผลผลิตที่ดีขึ้นในการทำเกษตรอีกด้วย
ทำให้ต่อไปการทำงานเกษตรกรรมกลายเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล เพราะการใช้เทคโนโลยีกลายเป็นสิ่งที่มีปประสิทธิภาพมากกว่า และคนที่ทำงานด้านการเกษตรหากไม่ถูกแทนที่ไป ก็จะต้องเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นเกษตรกร สู่การเป็นผู้ควบคุมเครื่องจักร
9. นักเขียน
แตกต่างจากนักเขียนทั่วไปที่ต้องงอาศัยทักษะทางความคิดสร้างสรรค์สูง นักเขียนข้อมูลคือนักเขียนที่เขียนเพื่อสื่อสารเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจง และมีเป้าหมายในการสื่อสารที่ชัดเจน
ปัจจุบันปัญญาประดิษฐ์สามารถทำงานกับภาษาได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และการเขียนข้อมูลต่าง ๆ นี่เองที่จะเป็นพื้นที่แรกที่หุ่นยนต์จะสามารถเข้ามาทำงานเขียนแทนมนุษย์ได้
10. นักแสดง
แม้ว่าดูจะเป็นอาชีพที่ถูกแทนที่โดยหุ่นยนต์ได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักแสดงต้องใช้ความสามารถทางอารมณ์ที่สูงในการสื่อสารเรื่องราว แต่การถูกแทนที่นี้จะไม่ใช่การที่หุ่นยนต์มาทำงานแทนนักแสดง แต่เป็นเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กราฟฟิค (CGI)
ไม่นานมานี้เราน่าจะได้เห็นกระแสของการนำนักแสดงชื่อดังผู้ล่วงลับกลับมารับบทต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยี CGI ที่คนดูแยกไม่ออก ปัจจุบันคอมพิวเตอร์กราฟฟิคก็ได้เปลี่ยนวงการแอนิเมชั่นไปแล้ว ให้กลายมาเป็นงานกราฟฟิคโดยสมบูรณ์ และการทำงานแอนิเมชั่นเเบบเดิมกลับกลายเป็นแค่ทางเลือก ต่อไปการใช้นักแสดง CGI อาจกลายมาเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม และการใช้นักแสดงคนจริงอาจกลายเป็นเพียงแค่ทางเลือก
ปัจจุบันความเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และสิ่งนี้อาจนำความกังวลมาให้เราไม่น้อย แต่แม้ว่าจะมีตำแหน่งงานมากมายหายไปเพราะวิวัฒนาการของเทคโนโลยี แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีงานใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาแทนที่ และงานเหล่านั้นมักจะเป็นงานที่ดีกว่า รายได้มากกว่า เช่นเมื่อพนักงานธนาคารถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีทางการเงินต่าง ๆ ตำแหน่งงานด้านการดูแลระบบของเทคโนโลยีเหล่านั้นก็จะเกิดขึ้นมา นั่นหมายความว่าแม้ตำแหน่งงานต่าง ๆจะหายไป หากเราสามารถเรียนรู้และปรับตัวได้อยู่เสมอ เราก็จะสามารถเปลี่ยนตัวเองไปสู่ตำแหน่งงานใหม่ ๆ และโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีที่พัฒนาไปเหล่านี้ได้