จาก 4P 4C 4E สู่ 4D ปรับโฟกัสการตลาดยุคดิจิทัลให้เป๊ะ
จาก 4P 4C 4E สู่ 4D ปรับโฟกัสการตลาดยุคดิจิทัลให้เป๊ะ
Business
3 นาที
24 ก.ย. 2021
แชร์
Table of contents
นักธุรกิจหรือนักการตลาดทั้งหลายอาจจะคุ้นเคยดีกับกลยุทธ์ 4P และกลยุทธ์ 4 อื่น ๆ มาบ้างอย่างแน่นอน อาทิ 4C ที่หันมาให้ความสำคัญกับ Customer หรือพัฒนาไปเป็น 4E ที่เน้นในเรื่องการสร้าง Experience ซึ่งล้วนเป็นแนวคิดการตลาดที่ถูกนำมาใช้ เพราะพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ดังนั้นคนทำธุรกิจยุคใหม่จึงละเลยไม่ได้ในการเรียนรู้และปรับตัวตามอยู่เสมอ
โดยแรกเริ่มเดิมที 4P ซึ่งประกอบไปด้วย Product, Price, Place, Promotion เป็นหลักการตลาดขั้นพื้นฐานที่คนทำการตลาดต้องคำนึงถึง ทว่าในวันนี้ที่หลายๆ ธุรกิจต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี สภาพสังคม พฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่ไม่คาดคิด สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอน และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ธุรกิจที่จะอยู่รอดได้ในยุคนี้คือธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นสูงในการปรับตัวด้วยกลยุทธ์ที่เรียกว่า “4D”
4D ที่กำลังพูดถึงนี้ไม่ใช่ภาพยนตร์ทะลุจอ 4 มิติ แต่อย่างใด แต่เป็นแนวคิดการทำธุรกิจและตลาดที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัลมากที่สุด เพราะมีการผสมผสานแนวคิดทั้ง 4P + 4C + 4E เข้าไว้ด้วยกัน โดยเน้นในเรื่อง “การปรับตัว และเตรียมความพร้อมขององค์กร” เพื่อเข้าสู่โลกยุคดิจิทัล ซึ่งมองธุรกิจในมุมมองที่กว้างกว่าเดิม ไม่ได้โฟกัสแค่เพียงเรื่องการตลาดเพียงอย่างเดียว เนื่องจากในความเป็นจริงในปัจจุบันทุกอย่างมีความเชื่อมโยงกันหมด
แนวคิด 4D ประกอบไปด้วย
1. Disruption
หนึ่งใน Buzzword ที่องค์กรใหญ่ๆ ใช้กับเยอะมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งที่เขาใช้กันเยอะก็เพราะมันเป็นสิ่งที่เลี่ยงที่จะเผชิญไม่ได้จริงๆ ในยุคดิจิทัล Disruption คือ ”การทลาย” แพทเทิร์นเดิมๆ โดยเฉพาะวิธีการทำงาน วิธีคิดต่างๆ ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นมากๆ มากกว่าเดิมหลายเท่า ทุกวันนี้โทรศัพท์สามารถตกรุ่นได้ภายในเวลาเพียงแค่ 1 ปี ต่างกับสมัยก่อนที่แต่ละเทคโนโลยีอยู่กับเรานานกว่านี้มาก ธุรกิจก็เช่นกัน ยิ่งเจอตัวเร่งปฏิกิริยาภายนอก อาทิ สถานการณ์ COVID-19 วิธีการทำงานเมื่อ 3 เดือนที่แล้วกับในวันนี้อาจจะต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเจอสิ่งต่างๆภายนอกเข้ามา Disrupt การทำงาน หน้าที่ของเราคือต้องยืดหยุ่นพร้อมปรับตัวตามให้ทันเสมอ
2.Digitalization
หนึ่งในการปรับตัวที่เห็นได้ชัดของหลายธุรกิจในปัจจุบันคือ การทำให้มีความเป็นดิจิทัล (Digitalize) หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้เป็นรูปธรรมที่สุดในประเทศไทย คือ ระบบธนาคาร ที่ตอนนี้สามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้สะดวกมาก คนไม่จำเป็นต้องไปต่อคิวรอที่สาขา เชื่อว่าทุกวันนี้แต่ละธนาคารต่างต้องแข่งขันพยายามพัฒนาปรับปรุงแอป และการใช้บริการในรูปแบบดิจิทัลให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้การเข้ามาของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตยังทำให้เกิดระบบนิเวศ (Ecosystem) ด้านเทคโนโลยีเกิดขึ้น ทั้งคนกับคน คนกับอุปกรณ์ และอุปกรณ์กับอุปกรณ์จะมีความสัมพันธ์เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งภายในปี 2030 มีคาดการณ์ว่าจะมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ถึง 1 ล้านล้านชิ้น (พ.ศ.2573) ดูเหมือนอีกนาน แต่จริงๆอีกแค่เพียงไม่ถึง 10 ปีข้างหน้านี้เอง
3.Désilotage
คำนี้เป็นภาษาฝรั่งเศส เป็นแนวคิดแบบใหม่ที่ต้องการจะกำจัด ไซโล (Silo) ที่เกิดขึ้นในองค์กร หรือการทำงานที่เกิดขึ้นในการทำธุรกิจและทำการตลาด ซึ่งไซโล หมายถึงการทำงานแบบตัดขาดงานใครงานมัน ทำให้ไม่เกิดเอกภาพในการทำงาน ขาดวิสัยทัศน์ในภาพรวมขององค์กร ซึ่งเป็นหน้าที่ของทีมบริหาร หรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องหาวิธีทำงานที่ตอบโจทย์ และเหมาะสมกับยุคดิจิทัล อาจจะใช้ Tool ดีๆ อาทิ Cloud Storage, IM Tool, Project Management Tool มาเป็นตัวช่วยให้คนองค์กรต่างแผนกมีการติดต่อสื่อสารทำงานร่วมกันกันได้ดียิ่งขึ้น ลดปัญหาการทำงานซ้ำซ้อน ติดขัดที่คอขวด และการสื่อสารที่ผิดพลาด
4.Diffusion
การกระจาย เป็นอีกหนึ่งคอนเซปต์สำคัญในยุคดิจิทัล สามารถนำมาปรับใช้ได้กับหลายอย่าง ทั้งในเรื่องการแชร์ข้อมูลกันระหว่างทีม หรือการพัฒนา Skill ของคนในองค์กรให้รู้งานในส่วนอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้บางองค์กรยังนำมาปรับใช้กับเรื่องการแบ่งทีมทำงาน เช่น ทำงานแบบแบ่งเป็น Squad ให้ผู้เชี่ยวชาญจากหลายๆแผนก มาช่วยกันรับผิดชอบโปรเจค การใช้คอนเซปต์เช่นนี้จะช่วยให้องค์กรทำงานรวดเร็ว มีความยืดหยุ่น เข้าใจกัน ปรับตัวได้ง่าย ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม บางธุรกิจอาจจะดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน จนลืมที่ปรับโฟกัสในส่วนต่างๆ ให้เข้ากับยุคสมัย เมื่อเจอสถานการณ์วิกฤตเข้าโดยไม่ทันตั้งตัวอาจได้รับผลกระทบที่หนักหนาได้ ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้ลองศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการปรับธุรกิจและการตลาดให้ไปต่อได้อย่างราบลื่นโลกดิจิทัลไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยนั้นเอง
Source: mbaitsmartprogram
————————————————
สามารถติดตามความรู้และคอร์สเรียนที่น่าสนใจจาก True Digital Academy ได้ทุกช่องทาง
Website – https://bit.ly/3e9QZPw
Facebook – https://bit.ly/391XSkF
LinkedIn – https://bit.ly/3p7x08V
Instagram – https://bit.ly/2LwX5Ra
TiKTok – https://bit.ly/3v8e0wV
YouTube – https://bit.ly/3is5lCx